คนเอเชียระวัง อาชญากรรมจากความเกลียดชังพุ่ง 361%

จากกรณี หญิงไทย อายุ 23 ปี นักศึกษาที่ไปเรียนต่อที่อเมริกา ถูกทำร้ายเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ขณะกลับจากการดูคอนเสิร์ตย่านมิดทาวน์นิวยอร์ก ซึ่งระหว่างรอรถไฟอยู่นั้น เธอโดนทำร้ายในซับเวย์ 34st

รวมถึงกรณีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นกับชาวเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายร่างกายชาวจีน หรืออื่นๆ ทางเราได้หาข้อมูล จนพบว่า กระแสแอนตี้คนเอเชียในนิวยอร์กนั้นยังพุ่งแรงและรุนแรงมากขึ้น โดยมีอาชญากรรมกับคนเอเชียในนิวยอร์กเพิ่มขึ้นถึง 361% เลยทีเดียว

โดย NBC News ได้รายงานว่า อาชญากรรมที่มาจากการเกลียดชังชาวเอเชียนั้นเพิ่มขึ้นจาก 28 เคส เป็น 129 เคส ระหว่างปี 2020-2021

ซึ่งข้อมูลต่างๆ นี้ เป็นการรายงานในการประชุมข่าว โดย the New York Police Department (NYPD) หรือกรมตำรวจนิวยอร์กนั่นเอง

ในรายงานยังได้เพิ่มเติมอีกว่า อาชญากรรมด้วยความเกลียดชังนี้ มีมากกว่า 500 เคส โดย เป็นเคสแอนตี้เอเชียมากกว่า 1 ใน 5 เลยทีเดียว

Russel Jeung ผู้ร่วมก่อตั้ง Stop AAPI Hate (องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่ติดตามเหตุการณ์ความเกลียดชังและการเลือกปฏิบัติต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและชาวเกาะแปซิฟิกในสหรัฐอเมริกา) กล่าวว่า จำนวนอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้นในรายงานของคณะกรรมการชุมชนนั้น "สอดคล้องกับการเหยียดผิวโดยทั่วไปต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย" ตามรายงานของ NBC

“และสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของอาชญากรรมในช่วงที่เกิดโรคระบาด และสะท้อนให้เห็นว่า ควรจะมีรายงานเรื่องชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียมากขึ้น” Russel Jeung กล่าวเสริม

และยังกล่าวต่อว่า ทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตมีส่วนสนับสนุนนโยบายและคำพูดต่อต้านเอเชียที่อาจจุดชนวนให้เกิดอาชญากรรมจากความเกลียดชัง

“อคติเรื่องแอนตี้เอเชียต้องแก้ไขด้วยการศึกษา” Russel Jeung บอกปิดท้าย