สังคม

จับคลินิกเถื่อนลอบเปิดแล็บตรวจโควิด ผงะ! เจอตัวอย่างเลือด-ปัสสาวะ เก็บไม่ถูกสุขลักษณะ

โดย nicharee_m

14 ธ.ค. 2564

61 views

บช.ก.ร่วม สบส.- อย.- สสจ.ปทุมธานี จับกุมคลินิกเถื่อนลักลอบตรวจรับรองผลโควิด ผงะเจอตัวอย่างเลือดและปัสสาวะ หลายพันตัวอย่าง เก็บรักษาไม่ถูกสุขลักษณะ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. ที่ห้องประชุม บก.ปคม. ศูนย์ราชการอาคารบี ตำรวจสอบสวนกลาง-สบส.-อย.- สสจ.ปทุมธานี  แถลงการจับกุม สถานพยาบาลลักลอบตรวจโควิด-19 รับรองผลผิดกฎหมาย เจอตัวอย่างเลือดและปัสสาวะ หลายพันตัวอย่าง เก็บรักษาไม่ถูกสุขลักษณะ

สืบเนื่องจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) ได้รับการประสานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ปทุมธานีว่า พบเบาะแสการเปิดคลินิกเถื่อน ซึ่งให้บริการในลักษณะห้องปฏิบัติการตรวจสารคัดหลั่งของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) และออกใบรับรองผลในนามคลินิกให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งอาจจะมีการดำเนินการที่ไม่ได้มาตรฐานสุ่มเสี่ยงให้เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 จึงได้ประสานมายังกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (กก.4 บก.ปคบ.) เพื่อสืบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติม

วานนี้ 13 ธ.ค.เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังลงพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบ ณ คลินิกเทคนิคการแพทย์ ตี แล็บ อินเตอร์กรุ๊ป ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านกระแซง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี โดยจากการตรวจสอบพบว่าคลินิกดังกล่าวให้บริการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 แก่ประชาชนด้วยชุดตรวจ ATK รายละ 500 บาท และออกใบรับรองผลในนามคลินิก โดยที่ไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี แต่มีการนำใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลจากสถานพยาบาลอื่นมาแสดงแก่ผู้มารับบริการเพื่อความน่าเชื่อถือ อีกทั้งเจ้าหน้าที่รวมถึงผู้ให้บริการและผู้ช่วยซึ่งอยู่ประจำคลินิกมิใช่แพทย์ หรือนักเทคนิคการแพทย์แต่อย่างใด




และจากการตรวจสอบสถานที่แห่งนี้พบว่ามีการจัดเก็บตัวอย่างเลือดและตัวอย่างปัสสาวะหลายพัน ที่ได้จากการออกไปรับตรวจตามโรงงานหรือบริษัทต่างๆ มาเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นโดยไม่ถูกสุขลักษณะ ประกอบกับการตรวจสอบเครื่องมือที่ใช้ในคลินิก ทำให้เห็นได้ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่กระทำการตามมาตรฐานวิชาชีพเทคนิคการแพทย์และมาตรฐานของสถานพยาบาล และประการสำคัญได้ตรวจพบว่าไม่มีการเก็บขยะติดเชื้อที่เป็นไปตามมาตรฐาน

เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย คือ 1) น.ส.วาสิตา (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ดูแลสถานที่ ในความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาต (คลินิกเถื่อน) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


และ 2) น.ส.พรนภา (สงวนนามสกุล)เป็นผู้ให้บริการตรวจขณะเข้าทำการตรวจสอบ ในความผิดตามพระราชบัญญัติเทคนิคการแพทย์ พ.ศ.2547 ฐานประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมยึดของกลางที่ใช้ประกอบการกระทำความผิด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า การตรวจสารคัดหลั่งของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะต้องกระทำในคลินิก หรือห้องปฏิบัติการที่มีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มิฉะนั้นก็อาจจะเป็นการเสียเวลาและเงินทองโดยเปล่าประโยชน์ ด้วยการที่ผู้ให้บริการขาดความชำนาญหรืออุปกรณ์การตรวจคัดกรองที่ไม่ได้มาตรฐานผลตรวจที่ได้ก็อาจจะขาดความเที่ยงตรง อีกทั้งวิธีการที่ไม่ถูกต้องก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือการระบาดจากสถานที่เก็บตัวอย่าง




จึงขอให้ประชาชนตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลทุกครั้งก่อนรับบริการ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อคลินิกที่ขึ้นทะเบียนได้ที่เว็บไซต์กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (http://mrd-hss.moph.go.th/) และในส่วนของห้องปฏิบัติการหรือห้องแล็บที่ตรวจคัดกรองด้วยวิธี RT-PCR สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่เว็บไชต์กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (https:/www.dmsc.moph.go.th/) ซึ่งจะมีการแสดงที่ตั้งของสถานพยาบาล หรือห้องปฏิบัติการเหล่านั้นอย่างชัดเจน หากตรวจสอบรายชื่อไม่พบ หรือสถานที่ตั้งไม่ตรงกับที่แสดงในเว็บไซต์ ขอให้ตั้งข้อสงสัยไว้เบื้องต้นว่าเป็นคลินิกเถื่อน หรือห้องแล็บเถือนให้หลีกเลี้ยงรับบริการ และแจ้งเบาะแสมาที่สายด่วน 1426 กรม สบส.ในวันและเวลาราชการ แต่หากอยู่ในส่วนภูมิภาคก็สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News