สังคม

สธ.ชี้ 'โอมิครอน' ไม่รุนแรง หวังปี 65 ชีวิตกลับมาเป็นปกติ ด้านนายกฯ พอใจยอดโควิดไทยลดลง

โดย thichaphat_d

9 ธ.ค. 2564

14 views

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโควิดโอมิครอนว่า ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ และข้อมูลที่ปรากฏ ค่อนข้างตรงกันว่าความรุนแรงของสายพันธุ์โอมิครอนค่อนข้างต่ำ รวมถึงข้อมูลองค์การอนามัยโลก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (8 ธ.ค.) ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโอมิครอนแม้แต่รายเดียว

ขอย้ำว่าข้อมูลทุกอย่างต้องผ่านการวิเคราะห์อย่างรอบด้าน คงเอาข้อมูลอันเดียวมาบอกไม่ได้ กระทรวงสาธารณสุขจะนำข้อมูลต่างๆ มาประมวล รวบรวมและแจ้งให้ประชาชนทราบเป็นระยะ

เมื่อถามถึงกรณีมีการพูดว่าเชื้อโอมิครอนมีการหลบภูมิคุ้มกัน นพ.โอภาส กล่าวว่า การประเมินว่าการติดเชื้อมากหรือน้อย การประเมินว่าวัคซีนได้ผลหรือไม่ ต้องใช้เวลา ไม่สามารถบอกได้ในเวลาอันสั้น ต้องติดตามผลระยะหยาว ข้อมูลทางระบาดวิทยา ขณะนี้เชื่อว่าโอมิครอนน่าจะมีมาตั้งแต่ต้น พ.ย.เป็นอย่างน้อย เทียบรูปแบบการระบาดกับเดลตา พอเข้าประเทศอินเดียแล้วใช้เวลาไม่นานก็ระบาดเร็วมาก

แต่โอมิครอนเกือบ 2 เดือน แล้วการระบาดยังไม่มาก จึงน่าจะไม่รุนแรงมากนัก และความรุนแรงเห็นตรงกันว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากโอมิครอนแม้แต่รายเดียว ส่วนใหญ่เชื่อว่าความรุนแรงค่อนข้างน้อย แต่การที่องค์การอนามัยโลกจะประกาศอะไรต้องใช้ข้อมูลมากกว่านี้

เมื่อถามต่อว่า มีหลายฝ่ายมองว่าโอมิครอนจะทำให้โควิดกลายเป็นโรคประจำถิ่น อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ถ้าดูประวัติศาสตร์ของโรคไข้หวัดใหญ่ มีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา มีการติดเชื้อไปเรื่อยๆ มีการสร้างภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติไปเรื่อย ๆ ความรุนแรงก็จะลดน้อยลง

ส่วนโควิด-19 ก็มีการกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ และดูเหมือนความรุนแรงจะลดลงเรื่อยๆ จาก 2-3 ปัจจัย 1. ติดเชื้อเรื่อยๆ ทำให้มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ 2. ที่กระตุ้นเพิ่มจากการฉีดวัคซีน ดูเหมือนจะทำให้ความรุนแรงของโรคลดลง อย่างไรก็ตาม เรื่องแบบนี้ต้องดูกันยาวๆ พูดเร็วไปอาจจะผิด แต่ดูแนวโน้มน่าจะเป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้ประมาทก็ติดตามอย่างใกล้ชิด

“สำหรับสถานการณ์โควิดในปี 65 เชื่อว่าคนไทยจะได้ฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดส ซึ่งจะประชุมในวันที่ 13 ธ.คนี้ ฉีดด้วยความสมัครจ ปูพื้นฐานด้วยการฉีดวัคซีนก่อน ส่วนแนวโน้มการระบาดของทั่วโลกตอนนี้ดูเหมือนสถานการณ์จะผ่อนคลายมากขึ้น เพราะมีการฉีดวัคซีนค่อนข้างมาก

แต่มาตรการป้องกันส่วนบุคคลต้องทำต่อไป มองในแง่ดีสถานการณ์ค่อยๆ ดีขึ้น แล้วเราจะกลับไปใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด ยกเว้นมีการกลายพันธุ์แบบหน้ามือเป็นหลังมือรุนแรง ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะเกิดขนาดนั้น ทั้งนี้ข้อมูลโควิดเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็วต้องติดตามข้อมูลกันเป็นระยะๆ” นพ.โอภาส กล่าว

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 ไทย ปรับตัวดีขึ้นติดต่อกันต่อเนื่อง ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ 3,618 ราย ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

ทั้งนี้ นายกฯ อยากเห็นคนไทยมีความสุขในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และไม่ต้องการกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งกระทบต่อผู้ประกอบการและประชาชนอีก อย่างไรก็ตามคนไทยเคยผ่านวิกฤตโควิดจากสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่น่ากลัวมาแล้ว

ขอเพียงทุกคนยึดมั่นการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แบบครอบจักรวาล ยึดหลักอนามัยส่วนบุคคล สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง เพราะการดูแลป้องกันตนเองปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ทุกสายพันธุ์

ถึงแม้จะมีพบโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในไทยแล้ว ระบบสาธารณสุขของไทยมีความพร้อมและเตรียมมาตรการรับมือไว้แล้ว ซึ่งจะมีการหารือเพิ่มเติม ในที่ประชุม ศบค. วันที่ 13 ธ.ค. นี้

คุณอาจสนใจ

Related News