สังคม
สรุปมาตรการคลายล็อก รับเปิดประเทศ เพิ่มโซนสีฟ้า 4 จว.นำร่องท่องเที่ยว
โดย panwilai_c
29 ต.ค. 2564
68 views
มาตรการผ่อนคลายใหม่ของ ศบค. ก่อนจะเปิดประเทศ ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งวันนี้ (29 ต.ค. 64) ที่ประชุม ศบค. มีมติยกเลิกเคอร์ฟิว ยกเว้น 7 จังหวัด และเตรียมคลายล็อกร้านอาหารขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ พื้นที่ 4 จังหวัด ขณะที่ยังมีบางจังหวัดสถานการณ์ระบาดยังหนักอยู่ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. สรุปมาตรการผ่อนคลาย เพื่อรองรับการเปิดประเทศ ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนนี้ โดยมีการประกาศปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม จากเดิม 23 จังหวัด เหลือ 7 จังหวัด ซึ่งจะยังคงมาตการเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 5 ทุ่มถึง ตี 3 ได้แก่ จันทบุรี ตาก นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา นอกนั้นยกเลิกเคอร์ฟิวทั้งหมด นอกจากนี้มีการกำหนดพื้นที่ใหม่ เป็นสีฟ้า หรือ พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว รวม 4 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา และ ภูเก็ต
ในส่วนของ 4 จังหวัดสีฟ้านี้ มาตรการของกิจการและกิจกรรมต่างๆ แทบจะกลับมาเป็นปกติ เช่น ศูนย์การค้า-ห้างสรรพสินค้า / โรงภาพยนตร์ / ร้านเสริมสวย ร้านนวด ร้านสปา สถานเสริมความงาม ร้านสัก และ ร้านสะดวกซื้อ รวมทั้งร้านอาหารสามารถกิน-ดื่มในร้านได้ ส่วนเรื่องของ การอนุญาตดื่มแอลกอฮอล์ เบื้องต้นจะให้แต่ละจังหวัดหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค. ได้ปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศ กรณีนอกเหนือจาก 46 ประเทศที่เข้ามาโดยไม่กักตัวตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยกลุ่มที่ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ จะยังคงต้องกักตัว 7 วัน แต่สำหรับผู้ไม่ได้รับวัคซีน หากมาทางอากาศ หรือทางน้ำ ต้องกักตัว 10 วัน ส่วนผู้ที่เข้ามาทางบกต้องกักตัว 14 วัน และต้องตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเข้าประเทศ และเมื่อเข้ามาแล้ว ต้องตรวจซ้ำอีก 2 ครั้ง
นพ.ทวีศิลป์ ยังได้นำข้อมูลพยากรณ์จากกระทรวงสาธารณสุข กับการเปิดประเทศ มาย้ำเตือนว่ามีทางแยกไป 3 ทาง ซึ่งจะเห็นผลตั้งแต่ช่วงสัปดาห์แรก
ทางแรก ในเส้นสีเขียว คือ กรณีการระบาดลดลงประมาณ 25% หากทุกคนการ์ดไม่ตก จะเดินหน้าเศรษฐกิจต่อไปได้ โดยผู้ติดเชื้อไม่เกิน 5,000 คนต่อวัน ทางที่ 2 ในเส้นสีส้ม คือ การระบาดลดลงประมาณ 15% หากการ์ดตกเล็กน้อย มาตรการไม่เข้มงวดเพียงพอ ก็อาจพบผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10,000 คนต่อวัน และทางสุดท้าย คือเส้นสีเทา หากการ์ดตกมาก ตัวเลขผู้ติดเชื้ออาจสูงถึง 40,000 คนขึ้นไป
ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ของไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 8,968 คน รวมสะสม 1,893,941 คน รักษาตัวอยู่ 99,301 คน อาการหนัก 2,222 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 515 คน เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 64 คน สะสม19,070 คน
ส่วนจังหวัดที่ต้องจับตาและเฝ้าระวังพิเศษขณะนี้ คือเชียงใหม่ เพราะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มวันเดียว 414 คน รวมสะสม 15,979 คน และนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงวันนี้ เพียง 3 เดือนมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงถึงกว่า 10,000 คน โดยมีคลัสเตอร์ระบาดกว่า 10 คลัสเตอร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ อติคุณ ลิ้มสุคนธ์ อาจารย์ประจำหน่วยวิชาโรคการหายใจเวชบำบัดวิกฤตและภูมิแพ้ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แสดงความกังวลถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายวันของเชียงใหม่ที่สูงขึ้น จนขณะนี้เตียงผู้ป่วยวิฤตสีส้มและสีแดง โดยขณะนี้เชียงใหม่มีโรงพยาบาลเพียง 2 แห่งที่รับผู้ป่วยหนักสีแดง ได้ คือ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และ โรงพยาบาลนครพิงค์
ด้านนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประกาศกำหนดพื้นที่ควบคุมการเข้า-ออก พื้นที่เสี่ยง ในตำบลหนอกแฝก อำเภอสารภี ตั้งแต่ 27 ตุลาคม - 10พฤศจิกายน เป็นเวลา 14 วัน และ ตำบลยุหว่า ตำบลมะขามหลวง อำเภอสันป่าตอง ตั้งแต่ 28 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน เป็นเวลา 7 วัน
ล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เตรียมหารือกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมสั่งให้เร่งทำความเข้าใจกับประชาชน ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด