ชาวโกสุมพิสัย ติดเกาะ น้ำท่วมถนนถูกตัดขาด โอดน้ำขึ้นไวลดช้า จะเข้าห้องน้ำทีก็ลำบาก

วานนี้ (11 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ชุมชนดอนน้อย หมู่ 5 ต.โพนงาม อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ถูกน้ำจากแม่น้ำชี เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 111 หลังคาเรือน กลายเป็นหมู่บ้านติดเกาะถูกตัดขาด ต้องใช้เรือสัญจรในการเข้าออก ซึ่งมีเรือกู้ภัย ทหาร ปภ. คอยรับส่งชาวบ้านตลอดทั้งวันตั้งแต่เข้ายันเย็น

โดยระดับน้ำภายในชุมชนสูง 1-2 เมตรท้องทุ่ง 3-4 เมตร เริ่มลดลงแล้ว ขณะที่หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชนทยอยน้ำอาหาร น้ำดื่ม เข้าไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ โดยในหมู่บ้านมีการตั้งเต็นท์ถนนภายในหมู่บ้านจุดที่น้ำท่วมไม่ถึง เป็นจุดรับบริจาคผู้ประสบภัย คัดกรองโควิด -19 วัดอุณหภูมิ จุดปฐมพยาบาลจ่ายยาสามัญประจำบ้านชาวบ้านต่างพากันมาขอยากัดเท้า

จากการลงพื้นที่พบว่ามีบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมหนัก 10 กว่าหลังคาเรือน อพยพไปอยู่บ้านญาติ ส่วนใหญ่เป็นบ้านชั้นเดียวเกือบมิดหลังคา ยุ้งข้าวถูกน้ำท่วม พื้นที่การเกษตรเสียหาย อาทิ นาข้าวทั้งนาปีนาปรัง สวนฝรั่ง สวนมะนาว บางหลังมีบ่อปลานิล ปลาตะเพียนถูกน้ำท่วมปลาออกจากบ่อ บ้านบางหลังอยู่ที่สูงน้ำไม่ท่วมแต่จะลำบากเรื่องการสัญจรเข้าออก

นางนงค์เยาว์ วรฤทธิ์ อายุ 49 ปี ชาวบ้านดอนน้อย พายเรือออกจากบ้านมากับสามีพร้อมกับสุนัขอีก 1 ตัว บอกว่า บ้านของตนยกสูงถูกน้ำท่วม ชั้นล่างสูงประมาณเอว จึงอาศัยอยู่ชั้นสองกับสุนัขที่เลี้ยงไว้ สิ่งของยกไว้ที่สูงบางอย่างร่วงหล่นลอยไปกับน้ำ ถ้าไม่เก็บออกไว้ล่วงหน้าคงเสียหายมากกว่านี้ เพราะน้ำมาเร็ว

4 วันแล้วที่น้ำท่วมขัง ใช้ชีวิตยากลำบากห้องน้ำไม่มีใช้เพราะถูกน้ำท่วมใช้ไม่ได้ ต้องพายเรือออกมาเข้าห้องน้ำบ้านญาติ น้ำท่วมไม่รู้จะทำอะไรก็นำตาข่ายไปดักปลาหน้าบ้านไว้กิน ทำปลาร้า ได้วันละ 3-4 ตัว ส่วนเรื่องอาหารการกินก็มีคนนำมาบริจาคให้ไม่ขาดสาย ตอนนี้ต้องการยาน้ำกัดเท้า

จากนั้นผู้สื่อข่าวไปที่บ้านม่วงใหญ่ หมู่ 6 กับ หมู่ 11 ต.โพนงาม อ.โกสุมพิสัย บ้านเรือนของประชาชนถูกนำท่วมได้รับผลกระทบรวม 274 หลังคาเรือน มวลน้ำล้อมหมู่บ้าน ถนนเข้าไปยังหมู่บ้านถูกตัดขาดติดเกาะ ต้องช่วยเหลือสัญจรภายในชุมชนพื้นที่ต่ำน้ำลึก 1- 2 เมตร ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังอาศัยอยู่ชั้นสองของบ้าน ขนเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่นอน เสื้อผ้าไว้ที่สูง

ชาวบ้านบางรายบ้านถูกน้ำท่วม จะไปอาศัยอยู่กับเพื่อนบ้านชั่วคราว บางส่วนอพยพไปอยู่ที่ศาลาอเนกประสงค์วัดม่วงใหญ่ และโรงเรียนม่วงใหม่-ดอนน้อยวิทยา โดยวัดเป็นสถานที่รวบรวมสิ่งของบริจาคก่อนกระจายให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย พร้อมทั้งทำอาหาร ส้มตำ นั่งล้อมวงกินด้วยกัน ขณะที่ชาวบ้านนำรถเข็นมาเข็นถุงยังชีพน้ำดื่ม กลับเข้าบ้าน

นางบัวไล เจริญวัย อายุ 57 ปี ชาวบ้านชุมชนม่วงใหญ่ ต.โพนงาม อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม บอกว่า ชาวบ้านซึ่งบ้านเรือนถูกน้ำท่วม บางส่วนยังอาศัยนอนในบ้านเพราะเป็นห่วงข้าวของ และจะออกมากินข้าวที่วัด เนื่องจากมีการตั้งโรงครัวทำอาหารเลี้ยงแจกจ่ายให้ชาวบ้านทุกมื้อ ตอนนี้ระดับน้ำในชุมชนเริ่มลดลง หลังวันน้ำทะลักเข้าท่วมตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา

ด้าน นางสมหมาย ผิวงาม อายุ 56 ปี บริเวณถนนหน้าบ้านระดับน้ำสูง 1-2 เมตร แต่บ้านของตนอยู่ที่สูงจึงไม่ถูกน้ำท่วม เวลาจะออกไปข้างนอกหรือรับสิ่งของบริจาคก็ต้องพายเรือออกไปรับที่วัด จะออกไปที่ไหนก็ลำบาก

โดยตนอาศัยอยู่กับสามีและหลาน และให้เพื่อนบ้านที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมมาอาศัยอยู่กินด้วยกันชั่วคราว ยามว่างสามีของตนจะนำตาข่ายไปดักปลามาไว้กิน หาปูหาปลาเก็บผักกินไปวัน ๆ ทำส้มตำหรือตำบักหุ่งกินกับเพื่อนบ้าน กินกันหลายคนมันอร่อย

ระดับน้ำขึ้นไวแต่ลดช้า ลำบากมากจะหาซื้ออะไรกินก็ยาก ตนเองนำข้าวในยุ้งฉางไปขาย เพื่อนำเงินไปซื้อปุ๋ยมาใส่ข้าวในทุ่งนา แต่นาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหายหมด หากน้ำยังไม่ลดใช้เวลานานนับเดือนก็จะอยู่อย่างนี้ จะไม่อพยพไปอยู่ที่ไหน

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวไปเจอชาวบ้านชุมชนม่วงใหญ่ รายหนึ่ง นั่งเรือออกจากหมู่บ้านเพื่อมาตัดหญ้าไปให้วัวกิน เพราะในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมไม่มีหญ้าให้วัวกิน คอกวัวถูกน้ำท่วม จึงต้องย้ายวัวทั้งหมด 6 ตัว ไปผูกไว้ที่บริเวณบ้านของญาติไม่ถูกน้ำท่วม ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านของตัวเอง คนลำบากอยู่แล้ว ต้องมาลำบากย้ายวัวอีก และหาหญ้า ฟางให้มันกิน ตนไม่อพยพไปอยู่ที่อื่นเพราะเป็นห่วงวัว

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/k_5gHyZvywU