นายกฯ ห่วง ปชช.ถูก SMS หลอกลวง กสทช.ผนึก 5 โอเปอเรเตอร์ ไล่บล็อก-ขึ้นแบล็กลิสต์

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นห่วงประชาชนตกเป็นเหยื่อ SMS ไลน์ เฟซบุ๊ก แอปเงินกู้ และโทรศัพท์ หลอกลวง

โดยอ้างเป็นผู้ให้บริการแหล่งเงินกู้ของรัฐ และแอบแฝงตัวมากับการจ่ายเงินเงินเยียวยาประกันสังคมให้กับผู้ประกันตน เพื่อหลอกรับเงินเยียวยา ม.33 ทำให้ประชาชนที่ไม่ทันตรวจสอบข้อเท็จจริงหลงเชื่อ ทำให้สูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก

จึงฝากประชาชนขอให้ตรวจสอบที่มาของ SMS/APP/Web ผู้ให้บริการเหล่านั้นต้องได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย โดยตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์หน่วยงาน กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น

หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร. 1213 และหากพบเบาะแสการกระทำความผิด ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคาร สถาบันทางการเงิน หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

“ท่านนายกรัฐมนตรีห่วงประชาชน อย่าเชื่อและอย่ากรอกข้อมูลส่วนตัวผ่านลิงก์ที่มิจฉาชีพส่ง จะทำให้ตกเป็นเหยื่อ สูญเสียทั้งข้อมูลส่วนตัวและทรัพย์สิน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ตรวจสอบ

หากพบหลักฐานการกระทำผิด ให้ดำเนินการตามกฎหมายสูงสุด เพราะถือว่าเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หากินบนความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับความยากลำบากจากสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้ ” นายธนกร กล่าว

ขณะที่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แท็กทีม 5 โอเปอเรเตอร์ทั้ง เอไอเอส ดีแทค ทรู 3BB และเอ็นที ไล่บล็อกและทำการขึ้นแบล็กลิสต์ ผู้ส่งที่ส่งข้อความหลอกลวง เล่นพนัน ปล่อยเงินกู้ออนไลน์ ซึ่งหลังจากที่ได้แชร์ข้อมูล SMS หลอกลวงระหว่างกันแล้วพบว่ามาจากผู้ส่งรายเดียวกัน

พบว่าตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา มีการบล็อก SMS ที่ส่งข้อความหลอกลวง ไปแล้ว 140 SMS และอยู่ระหว่างการดำเนินการอีกจำนวนมาก จากนี้จะส่งข้อมูลต่อให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เร่งดำเนินคดี

ด้าน พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กล่าวว่า ทาง บช.สอท. จะเร่งเอาผิดและดำเนินคดีกับมิจฉาชีพอย่างรวดเร็ว เพราะมีความเชี่ยวชาญและชำนาญในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว อีกทั้งจะเร่งปิดช่องโหว่

จากกรณีที่มิจฉาชีพใช้การโทรผ่านอินเทอร์เน็ตระบบ VOIP (Voice over Internet Protocol) เข้ามาจากต่างประเทศเพื่อหลอกลวงประชาชนด้วย โดยอยู่ระหว่างหาแนวทาง ซึ่งเบื้องต้นกรณีที่เป็นการใช้ระบบ VOIP โทรมาจากต่างประเทศ อาจจะต้องมีเครื่องหมายแจ้งเตือน เพื่อให้ประชาชนระมัดระวังตัว

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/AwXNzx3qZMY