เปิดหลักฐานการจัดตั้ง ศูนย์บำบัดยาเสพติด "วัดท่าพุราษฎร์บำรุง" พร้อมเงินสนับสนุน

ตรวจสอบข้อมูลสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง ที่ถูกสั่งปิดไป พบว่าได้รับอนุญาตจัดตั้งจริง และตลอด 5 ปีย้อนหลัง ยังขอรับงบประมาณอุดหนุน จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา 26 กรกฎาคม 2555 เผยแพร่เรื่องการจัดตั้งสถานพยาบาลประเภทสถานฟื้นฟูสมรรถภาพ ตาม ระบะว่าศูนย์สงเคราะห์และฟื้นฟูวัดท่าพุราษฎร์บำรุง อำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เป็นหนึ่งศูนย์ที่จัดตั้งขึ้น ตาม พรบ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522

อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตุว่า วัดท่าพุราษฎร์บำรุง ที่เกิดปัญหาตอนนี้ เมื่อขึ้นทะเบียนแล้วไม่ได้ประเมินตนเองเพื่อรับรองคุณภาพซ้ำ เหมือนสถานพยาบาลประเภท1 และ 2 ที่ต้องตรวจรับรองคุณภาพซ้ำทุก 3 ปี

เอกสารนี้ เป็นหนังสือที่วัดส่งถึง ป.ป.ส.ภาค 7 เพื่อขอรับงบประมาณสนับสนุน สี่แสน แปดหมื่นบาท เป็นค่าอาหาร สำหรับผู้รับการบำบัด 60 คน ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตุว่า จำนวนผู้รับการบำบัด 60 คน ตามหนังสือ น้อยกว่าจำนวนผู้รับการบำบัดที่เพิ่งปิดศูนย์ไป ซึ่งมีถึง 270 คน

เลขาธิการสำนักงาน ป.ป ส. เปิดเผยกับข่าว 3 มิติ ว่าการให้งบประมาณอุดหนุนดังกล่าว เป็นงบประมาณปกติที่อุดหนุนเหมือนภาครัฐ และเอกชนอื่นๆ ซึ่งรวมตัวทำโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับการบำบัดยาเสพติด แต่มาตรฐานของศูนย์ฯ นั้นๆ จะได้รับการตรวจโดยกระทรวงสาธารณสุข

นับจากปี 2560 เป็นต้นมา วัดพุราษฎร์บำรุง ได้รับเงินอุดหนุนเรี่อยมาคือปี 2560 และ 2561 ปีละ 2.4 แสนบาท เป็นค่าอาหาร 40 คน คนละ 750 คนต่อเดือนรวม 8 เดือน ปี 2562 ได้รับ 2.1 แสนบาท ปี 2563 ได้รับ 2.5 แสนบาท และปี 2564 ได้รับอีก 4.2 แสนบาท ซึ่งจำนวนคนบำบัดมี 60 คน

ขณะที่ภาพรวมของผู้บำบัดยาเสพติดทั่วประเทศ จากการเปิดเผยของ เลขาธิการ ป.ป.ส.พบว่า ปี งบประมาณ 2564 นี้ มีจำนวนน้อยสุดหากนับจากปี 2560 เป็นต้นมา คือ 126,264 โดยปี 2562 มีผู้รับการบำบัดมากสุดถึงกว่า 2.3 แสนคน

ข้อมูลผู้บำบัดลดลง สอดคล้องกับสถิติการจับผู้เสยพ์ที่ลดลงระหว่างปีที่แล้ว และปีนี้ เพราะการปิดสถานบันเทิงแหล่งมั่วสุมในช่วงโควิด ทำให้กลุ่มคนที่ใช้ยาเสพติดในแบบเสพย์เพราะสังสรรค์ ลดลงไปด้วย แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่า ช่วงโควิดกลับกลายเป็นจับไอซ์และเฮโรอีนได้มากที่สุดแบบก้าวกระโดด

ข้อมูล ป.ป.ส.พบว่าเฉพาะปีงบประมาณ 2564 ถึง 22 กันยายน เจ้าหน้าที่จับยาบ้าได้ 552 ล้านเม็ด เป็นตัวเลขใกล้เคียงปี 2562 ที่ 521 ล้านเม็ด ขณะที่เฮโรอีน เฉพาะปี 2564 มากถึง 4520 กิโลกรัม มากกว่าปี 2560 ถึง 2563 รวมกันด้วยซ้ำ โดยเฮโรอีน และไอซ์ มีปลายทางสู่ประเทศที่ 3 แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าการลักลอบส่งผ่านประเทศไทย ยังเป็นทางเลือกสำคัญของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ