สังคม

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ร้องดีเอสไอ ถูกมิจฉาชีพปลอมไลน์ - เฟซบุ๊ก หลอกปชช.โอนเงินจองวัคซีน

โดย panisa_p

20 ก.ย. 2564

40 views

วันนี้ (20 ก.ย. 64) นายวัลลภ ยุติธรรมดำรง รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เดินทางมายื่นเรื่องต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้พิจารณาดำเนินคดี กรณีมีผู้ปลอมบัญชีไลน์และเฟซบุ๊กในนามราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และใช้ตราสัญลักษณ์ปลอมของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ไปหลอกลวง ฉ้อโกงขายวัคซีนซิโนฟาร์มกับประชาชน


นายวัลลภ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีบุคคลที่ปลอมแปลงบัญชีไลน์ และเฟซบุ๊ก โดยใช้ชื่อราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และนำตราสัญลักษณ์ รวมถึงรูปภาพต่าง ๆ ไปใช้ เพื่อหลอกลวงให้ประชาชนสั่งจองวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์ม โดยขณะนี้มีผู้ที่หลงเชื่อโอนเงินค่าวัคซีนแล้วหลายราย มีมูลค่าความเสียหายเป็นหลักล้านบาท เบื้องต้นจึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับ สน.ท้องที่ไว้แล้วส่วนหนึ่ง แต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่กระทบต่อประชาชนจำนวนมาก และมีมูลค่าความเสียหายสูง จึงมายื่นเรื่องให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณาว่าจะเข้าข่ายคดีพิเศษด้วยหรือไม่




โดยพฤติกรรมของมิจฉาชีพ จะปลอมแปลงบัญชีไลน์และเฟซบุ๊กขึ้นมา และแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เข้าไปตอบคำถามข้อสงสัยในกลุ่มสาธารณะที่พูดคุยเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนต่าง ๆ ให้ประชาชนหลงเชื่อ และหลอกให้จองวัคซีนพร้อมโอนเงิน โดยเป็นราคาวัคซีนที่สูงกว่าราคาที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จัดสรรด้วย


ด้านนายนคนันท์ ร่วมใจ นิติกรราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดเผยว่า พฤติกรรมของมิจฉาชีพรายนี้ ยังพบด้วยว่า มีการไปหลอกขอ Username และ Password ของทางโรงพยาบาลที่รับจัดสรรวัคซีนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และทำการล็อกอินเข้าไปเพิ่มชื่อผู้ได้รับจัดสรรวัคซีน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและไปหลอกประชาชนต่อ ซึ่งมีโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำนี้ และเข้ามาร้องเรียนต่อราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ด้วย




ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำกับประชาชนว่า ช่องทางติดต่อเรื่องการจัดสรรวัคซีนของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มี 2 ช่องทางบนเฟซบุ๊กเท่านั้น คือ เพจโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มีผู้ติดตาม 662,000 คน และเพจศูนย์ข้อมูลราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มีผู้ติดตาม 155,000 คน ส่วนบัญชีในการโอนเงิน ก็จะเป็นชื่อบัญชีของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ไม่มีการโอนเงินผ่านพร้อมเพย์หรือชื่อบัญชีอื่น


ขณะที่ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า เบื้องต้นจะรับเรื่องดังกล่าวไว้และให้คณะทำงานตรวจสอบว่าเข้าข่ายคดีพิเศษหรือไม่ หากเป็นคดีที่มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก หรือมีความยุ่งยากซับซ้อน ก็จะพิจารณาดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News