สังคม

สธ.จ่อชง ศบค.ผ่อนคลายมาตรการโควิด ลุ้นนั่งกินในร้าน 50%

โดย nicharee_m

26 ส.ค. 2564

98 views

สธ.เตรียมเสนอ ศบค. ในวันพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับเปิดกิจการ จัดกิจกรรมบางประเภทได้ เช่น เปิดให้นั่งกินร้านอาหารได้ ร้อยละ 50 ถึง 2 ทุ่ม เปิดสายการบิน กีฬากลางแจ้ง กิจกรรมบางอย่างในห้างสรรพสินค้า แต่มีเงื่อนไข ผู้รับบริการ และผู้ให้บริการ ต้องปลอดเชื้อ


นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเปิดแถลงข่าวออนไลน์ต่อสื่อมวลชน ระบุถึงสถานการณ์การระบาด โควิด-19 ทั่วโลกที่พบมีแนวโน้มความรุนแรงมากขึ้นผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันเฉลี่ยวันละ 300,000 คน ขณะที่ผู้เสียชีวิตทั่วโลกเฉลี่ยประมาณวันละ 10,000 ราย โดยประเทศที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงจำนวนมากคือสหรัฐอเมริกาถึงแม้จะได้รับวัคซีนเป็นจำนวนมากพอสมควรไปแต่พบการติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดได้ค่อนข้างสูง


ส่วนสถานการณ์ภายในประเทศไทยเองก็ยังพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากรวมถึงผู้เสียชีวิตกว่าซึ่งจากการดำเนินมาตรการล็อคดาวน์เป็นระยะเวลาประมาณสี่สัปดาห์กว่า ประสิทธิภาพของการล็อกดาวอยู่ที่ประมาณร้อยละ 20 ถึง 25 ทำให้การติดเชื้อไม่เกิดการแพร่ระบาดรุนแรงและตอนนี้แนวโน้มเริ่มลดลงเล็กน้อย


อย่างการออกจากบ้านเมื่อจำเป็นเท่านั้นหากเป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน เว้นแต่จำเป็นเว้นระยะห่างจากบุคคลอื่น อย่างน้อยหนึ่งถึงสองเมตร ในทุกสถานที่สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา ทั้งที่อยู่ในและนอกบ้าน ที่มีคนมากกว่าสองคน


หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัยหน้ากากผ้าที่สวมใส่อยู่ รวมทั้งใบหน้า ตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร หลังใช้ห้องน้ำ ไอ จาม หรือสัมผัสวัตถุสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน


ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้หรือสิ่งแวดล้อม ด้านกายภาพแยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด ไม่ควรใช้ของร่วมกับผู้อื่น เลือกทานอาหารที่ร้อน หรือปรุงสุกใหม่ หากสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงเช่นสัมผัสผู้อาจติดเชื้อหรือมีอาการควรได้รับการตรวจด้วยชุดตรวจ ATK บ่อยๆ เพื่อยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่หรือไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน


ส่วนในสถานประกอบการเองก็มีการปรับยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 เพื่อเปิดกิจกรรมกิจการได้อย่างปลอดภัยด้วยหลัก Covid-free setting หนึ่งเขตสุขภาพหนึ่งจังหวัด โดยพนักงานในสถานประกอบการต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล ขณะที่สถานประกอบการเองต้องจัดพื้นที่ทำงาน โดยเว้นระยะห่างมันตรวจระบบระบายอากาศสุขอนามัยให้สะอาด และมีความปลอดภัยมีการตรวจด้วยชุดตรวจเอทีเคทุกสัปดาห์ ทุกกิจการเสี่ยง ดำเนินการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมพนักงาน เป็นต้น


เบื้องต้น มาตราการทั้งหมด ยังเป็นมาตรการแนะนำ ไม่ได้บังคับ รอ ศบค.เคาะอีกที แต่ก็จะประกาศล่วงหน้าให้เตรียมตัว


โดยทั้งหมดนี้เป็นมาตรการสำหรับสถานประกอบการในระบบปิด ส่วนระบบเปิดน่าจะผ่อนปรนได้มากกว่านี้ ซึ่งมาตรการยังต้องเสนอ ศบค.พิจารณา ก่อนในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ แต่มีแนวโน้มว่าเป็นไปได้ที่จะให้ร้านอาหารสามารถนั่งรับประทานในร้านได้ประมาณ 50%


ด้านนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯคาดหวังอย่างมาก ว่า การประชุม ศบค. วันที่ 27 สิงหาคมนี้ จะมีการพิจารณาผ่อนปรนให้ร้านอาหารกลับมาเปิดให้นั่งรับประทานในร้านได้ไม่เกิน 50% โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขความเข้มงวดด้านสาธารณสุข ทั้งการกำหนดให้ผู้ที่จะเข้ามานั่งในร้านต้องได้รับการฉีดวัคซีน ครบโดส การคุมเข้มระยะห่าง รวมถึงร้านต้องได้มาตรฐาน SHA+


ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่เริ่มปรับตัวลดลง เชื่อว่าเป็นสัญญาณดี และ ศบค.น่าจะพิจารณาผ่อนปรนให้ร้านอาหารกลับมาเปิดบริการได้อีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารมีความพร้อมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดในการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดเพื่อให้สามารถเปิดกิจการได้


โดยมองว่ากลุ่มที่ได้รับประโยชน์ชัดเจน คือกลุ่มร้านอาหารสตรีทฟู้ด ที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ประเมินว่า หากวันที่ 1 กันยายนนี้ สามารถกลับมาเปิดให้นั่งรับประทานอาหารในร้านได้ แม้เพียง 50% ของจำนวนที่นั่งในร้าน ก็จะช่วยให้รายได้ผู้ประกอบการ ที่เหลือเพียงไม่ถึง 20% ในปัจจุบัน กลับมาในระดับ 50% ได้ ซึ่งจะช่วยพยุงการจ้างงาน และต่อลมหายใจผู้ประกอบการให้อยู่รอดได้จนถึงวันที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และช่วยลดความเสียหายในภาพรวมของธุรกิจร้านอาหารลงได้พอสมควร


ขณะที่สมาคมผู้ค้าปลีกไทย เสนอมาตรการผ่อนผันเร่งด่วนให้ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ และร้านค้าต่างๆ สามารถกลับมาเปิดบริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เช่นกัน โดยมีเงื่อนไข และเกณฑ์ในการปฏิบัติที่เข้มข้น


เช่น คัดกรองพนักงานโดย Platform Thai Safe Thai ทุกวัน หากพบว่ามีความเสี่ยง ให้ตรวจด้วย Antigen Test Kit ทันที ให้ร้านค้าประเมินตนเองตามหลักเกณฑ์ของ Thai Stop Covid+ ทุกเดือน ผู้ใช้บริการต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ควบคุมจำนวนลูกค้า 1 คน ต่อ 5 ตารางเมตร และให้จองการเข้ารับบริการล่วงหน้า เป็นต้น


โดยสมาคมผู้ค้าปลีกไทย พร้อมยกระดับการปฏิบัติการเข้มข้นขั้นสูงสุด เพื่อร่วมฝ่าฟันวิกฤตโควิด และร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง


คุณอาจสนใจ

Related News