สังคม

โมเดลศูนย์พักคอยเอกชน ในความดูแลของ กทม.

โดย pattraporn_a

12 ส.ค. 2564

75 views

จำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการติดเชื้อภายในชุมชน ทำให้ทางกรุงเทพมหานคร ได้ปรับมาตรการ เร่งคัดแยกผู้ติดเชื้อออกมาโดยเร็วที่สุด ด้วยการเพิ่มจุดพักคอย ซึ่งวันนี้ (12 ส.ค.) ได้เปิดศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อเขตลาดพร้าวเพิ่มอีก 1 แห่ง สร้างเป็น Comunity Isolation ผ่านความร่วมมือจากภาคเอกชนและภาคประชาสังคมที่จะข้ามาเป็นผู้ดูแลพื้นที่แห่งนี้คนละครึ่งกับกทม. เพื่อเป็นโมเดลให้กับศูนย์พักคอยอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต


บนพื้นที่เกือบ 3 ไร่ ของบริษัทอาร์บีเอสโลจิสติกส์ จำกัด ได้ถูกส่งมอบให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้เป็นศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด-19 ภายในมีการดัดแปลงอาคารศูนย์กระจายสินค้าให้มีเตียงสนาม และ พื้นที่ส่วนกลางให้ผู้ป่วยได้ผ่อนคลาย ก่อนส่งเข้ารับการรักษา โดยมีการแยกส่วนชายหญิง รองรับผู้ป่วยได้ 176 คน พร้อมความดูแลจากแพทย์โรงพยาบาลปิยเวท ผ่านระบบเทเลเมดิซีน และ เจ้าหน้าที่ส่วนกลาง ตามจุดประสงค์เพื่อดูแลผู้ป่วยที่ยังเฝ้าดูอาการ และคัดแยกผู้ติดเชื้อออกจากชุมชน


ปัจจุบันพื้นที่กรุงเทพมหานครเหนือทั้ง 7 เขต ประกอบด้วยเขต ดอนเมือง หลักสี่ บางเขน สายไหม บางซื่อ จตุจักร และลาดพร้าว โดยมีศูนย์พักคอย 11 แห่ง จำนวนกว่า 2,000 เตียงรองรับ ขณะนี้ว่างอยู่ประมาณ 800 เตียง ซึ่งทางกรุงเทพมหานครได้ปรับแผนการรักษาเพื่อเพิ่มศักยภาพการรองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ใน community isolation ยกระดับโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองแทน


ศูนย์แห่งนี้ยังได้รับความร่วมมือจากโครงการเซฟ ไทย ไฟต์โควิด ที่ต่อยอดจากการดำเนินงานเชิงรุกในชุมชน นำมาผู้ป่วยที่ประสานงานเข้าส่วนพักคอยในที่แห่งนี้ ซึ่ง comunity Isotion จะช่วยสนับสนุนมาตรการควบคุมโรคได้ดีกว่า เนื่องจากบริบทการอยู่อาศัยของสังคมไทยที่มักอยู่อาศัยกันแบบครอบครัวใหญ่ทำให้ยากต่อการทำโฮมไอโซเลชั่น


ล่าสุด ผู้ป่วยกลุ่มแรกก็เริ่มเข้าใช้ศูนย์พักคอยแห่งนี้ทันที ซึ่งหากทุกชุมชนมีพื้นที่ที่มีศักยภาพรองรับการแยกกักตัวอย่างน้อยชุมชนละ 1 แห่ง ก็จะสามารถลดความเสี่ยงในการแพร่ของเชื้อสู่คนใกล้ชิดได้ไม่มากก็น้อย โดยผู้ที่ทราบผลติดเชื้อโควิด-19 สามารถติดต่อหมายเลข 1330 หรือ หมายเลขประจำสำนักงานเขตได้ทันที เพื่อรับคำแนะนำเบื้องต้นก่อนเข้าสู่กระบวนการรักษา

คุณอาจสนใจ