สังคม

ลุงป่วยอัมพฤกษ์ติดโควิด อาการทรุด รพ.ไม่ปฏิเสธการรักษา แต่ให้ซื้อเตียงเสริมเอง ลูกหาซื้อไม่ได้ ต้องพากลับบ้าน

โดย thichaphat_d

12 ส.ค. 2564

138 views

คุณรุจิรา ร้องขอความช่วยเหลือผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ หลังคุณพ่อ อายุ 66 ปี ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ติดโควิด อาการทรุด ทานอาหารไม่ได้ อาเจียน และอุจจาระราดเป็นสีดำ ตัดพ้อ ติดต่อสายด่วน 1330 แต่เจ้าหน้าที่บอกให้ติดต่อจิตอาสาเส้นด้ายแทน


โดยคุณรุจิรา เล่าว่า คุณพ่อและคุณแม่อาศัยอยู่ในบ้านด้วยกันสองคน ส่วนตนย้ายไปอยู่กับสามีและลูกที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ก่อนหน้านี้คุณแม่ติดเชื้อโควิด และได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว ต่อมา คุณพ่อซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก เริ่มมีอาการคล้ายเป็นหวัด ตนจึงซื้อชุดตรวจโควิดมาตรวจให้พ่อ แต่ผลออกมาเป็นลบ


กระทั่งวันที่ 10 ส.ค. อาการพ่อก็ทรุดหนัก อ่อนเพลีย ทานอาหารไม่ได้ อาเจียน และอุจจาระราดตลอดทั้งวัน โดยอาเจียนและอุจจาระออกมาเป็นน้ำสีดำ ทั้งๆที่พ่อทานอะไรไม่ได้มา 2-3 วันแล้ว ซึ่งพ่อบอกว่ารู้สึกคลื่นไส้ และเวียนศีรษะตลอดเวลา จึงซื้อชุดตรวจมาตรวจให้พ่ออีกครั้ง และพบว่าผลเป็นบวก


ตนสงสารพ่อมาก เพราะพ่ออุจจาระตลอดจนหมดแรง เป็นลมในห้องน้ำ ระหว่างที่เดินไปเข้าห้องน้ำ อุจจาระก็จะราดเป็นทาง เขาก็พยายามจะเดินให้เร็ว เพราะไม่อยากให้ตนต้องไปเช็ดอุจจาระให้เขา ตนก็บอกไปว่าไม่เป็นไร ตนทำได้ จนตอนนี้พ่อไม่มีเรี่ยวแรง ลุกไม่ขึ้น ส่วนตนก็ยอมเสี่ยงติดเชื้อ โดยการมาอยู่ดูแลพ่อที่บ้าน แต่ใช้วิธีป้องกันตัวเอง และกางเต็นท์นอนหน้าบ้านแทน ซึ่งตนได้บอกกับลูกและสามีแล้วว่า ขอกลับมาอยู่บ้านเพื่อดูแลพ่อให้หายก่อน ซึ่งสามีและลูกก็เข้าใจ


คุณรุจิรา กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกทุกข์ใจมาก เพราะทำอะไรไม่ได้ ตนพยายามติดต่อไปหลายหน่วยงาน ติดต่อก็ยาก แต่ก็ยังไม่มีใครช่วยเหลือ บางที่ก็บอกว่าถ้าพ่อช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ก็ไม่สามารถรับเข้ารักษาได้ พอติดต่อไปสายด่วน1330 เจ้าหน้าที่กลับบอกให้ตนติดต่อไปที่จิตอาสาเส้นด้าย พร้อมกับให้เบอร์โทรมาด้วย ตนงงมากว่าตนติดต่อหน่วยงานของรัฐ แต่เจ้าหน้าที่กลับบอกให้ตนติดต่อไปหาจิตอาสาแทน กลายเป็นว่าประชาชนต้องดิ้นรนกันเองอย่างนี้หรือ


ซึ่งตนไม่ได้ต้องการเตียง ตนสามารถดูแลพ่อที่บ้านเองได้ เพียงแค่อยากให้มีใครเข้ามาดูอาการของพ่อ ว่าเป็นอะไรกันแน่ และจ่ายยาหรือให้น้ำเกลือเพื่อให้เขาอาการดีขึ้น ซึ่งพ่อไม่เคยมีโรคประจำตัว และไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน หากจะให้ตนพาพ่อไปโรงพยาบาลก็ทำไม่ได้ เพราะกลัวว่าจะนำเชื้อไปแพร่ให้คนอื่น จึงตัดสินใจติดต่อรายการเรื่องเล่าเช้านี้ พอโทรไป พี่ก็มาเลย ตนรู้สึกดีใจและขอบคุณมาก


ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ได้ประสานไปยังจิตอาสาเส้นด้าย เพื่อเข้าไปดูอาการของคุณลุงที่บ้าน พบว่าค่าออกซิเจนยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่อาการของคุณลุงค่อนข้างน่าเป็นห่วง กรณีที่อาเจียนและอุจจาระราดเป็นสีดำ เส้นด้ายจึงได้ประสานไปยังโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งย่านอ่อนนุช ซึ่งทางโรงพยาบาลพร้อมรับคุณลุงเข้ารักษา


แต่เมื่อเส้นด้ายพาตัวคุณลุงไปส่งโรงพยาบาลแล้ว พยาบาลกลับแจ้งกับลูกสาวว่าคุณลุงอาการไม่วิกฤต ให้พาตัวไปอีกโรงพยาบาลรัฐอีกแห่งหนึ่ง ย่านลาดกระบัง พร้อมบอกว่าประสานไว้ให้แล้ว โดยที่ไม่มีการให้น้ำเกลือ หรือตรวจดูอาการที่คุณลุงเป็น มีเพียงการวัดค่าออกซิเจนและความดันเพียงเท่านั้น ลูกสาวจึงขับรถไปสอบถามที่รพ.ตามสิทธิคนพิการของคุณลุง


เวลาประมาณ 20.00 น. เมื่อไปถึงโรงพยาบาลอีกแห่ง เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปฏิเสธการรับเข้ารักษา แต่บอกว่าให้ญาติไปหาซื้อเตียงเสริมมาเอง เพราะเตียงเต็ม และจะให้ไปนอนที่ลานจอดรถ ซึ่งมีคนไข้กางมุ้งนอนอยู่จุดนั้นประมาณ 4 คน เมื่อลูกสาวถามว่าจะหาซื้อเตียงได้ที่ไหนในเวลานี้ เจ้าหน้าที่กลับบอกว่า ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าไม่มีเตียงเสริมก็รับรักษาไม่ได้ ท้ายที่สุด ทีมงานเส้นด้ายจึงต้องจำใจไปรับตัวคุณลุงจากโรงพยาบาลแรก เพื่อส่งกลับมาที่บ้าน


ในขณะที่ ลูกสาวคุณลุง บอกกับทีมข่าวว่า ท้อแท้มาก ไปถึงโรงพยาบาลแรกแล้ว แต่กลับถูกไล่ให้ไปอีกโรงพยาบาล พอไปอีกโรงพยาบาลกลับบอกให้ไปซื้อเตียงเสริม นี่หรือคือสิ่งที่ผู้ป่วยควรจะได้รับ อย่างน้อยโรงพยาบาลแรกก็ควรตรวจดูอาการของพ่อ ให้น้ำเกลือ หรือให้ยาเบื้องต้นมาบ้างก็ยังดี ไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเอง


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/RJGKy12dZ6g

คุณอาจสนใจ