กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ยันไม่เคยทำบัญชีเฝ้าระวังบุคคลทางการเมือง เตรียมตรวจสอบที่มาเอกสารลับ

ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ยันไม่เคยทำบัญชีเฝ้าระวังบุคคลทางการเมือง เอกสารลับดังกล่าว ไม่ใช่เอกสารที่ออกจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ด้านผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเตรียมตรวจสอบที่มาของเอกสารลับ

จากกรณีที่มีประเด็นการเผยแพร่ข้อมูลทางโซเชียลและสื่อมวลชนต่าง ๆ กรณีมีเอกสารหลุด “ลับที่สุด” จับตา183 บุคคลถูกเฝ้าดู โดยระบุชื่อ พันตำรวจโมหญิง โสภิดาฯ สารวัตรกองกำกับการสืบสวนป้องกันปราบปราม กองบังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 ที่มุมขวาของกระดาษด้วย

พันตำรวจเอกเชิงรณ ริมผดี รองโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า โดยปกติสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะมีข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งกรณีที่เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศ ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 12 ซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่เคยถูกจำคุกทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงคนต่างชาติที่มีหมายจับจากต่างประเทศ

ซึ่งกลุ่มนี้หากตรวจพบว่าเข้าข่ายคนต้องห้ามจะเดินทางเข้าประเทศ ก็จะถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธการเข้าเมือง ส่วนอีกกรณีหนึ่งคือ กรณีมีหมายจับคดีอาญาในประเทศไทย หากเจ้าหน้าที่พบว่า กำลังจะเดินทางเข้า หรือ ออกนอกประเทศ ก็จะมีการจับกุมดำเนินคดี ซึ่งหมายจับคดีอาญากลุ่มนี้ จะเชื่อมโยงกับระบบฐานข้อมูลหมายจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือระบบ Crime ทุกคดี ซึ่งขณะนี้มีหมายจับคดีอาญาทุกประเภท ทั้งคดีเกี่ยวกับชีวิตและทรัพย์สิน คดีตามพ.ร.บ.อื่น ๆ รวมประมาณ 1,923 คดี

ด้านพลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า จะตรวจสอบถึงที่มาของเอกสารลับดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นได้รับการยืนยันจาก พลตำรวตรีวีระพล สวัสดี ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ว่าไม่เคยทำบัญชีเฝ้าระวังบุคคลทางการเมือง เอกสารลับดังกล่าว ไม่ใช่เอกสารที่ออกจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอย่างแน่นอน

ส่วนการจับกุมตามหมายจับคดีอาญาทุกประเภท ของ บก.ตม.2 ที่มีการจับกุมจากการตรวจพบในระบบ ขณะเดินทางเข้าออกประเทศ ในปี 2562 จับกุม 549 คดี ปี 2563 จับกุม 326 คดี และปี 2564 จับกุมได้ 210 คดี