สังคม

จับ 'วงร็อกรัสเซีย' เล่นคอนเสิร์ตในไทย แต่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน เตรียมผลักดันออกนอกประเทศ

โดย panisa_p

31 ม.ค. 2567

121 views

สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองยืนยัน จับวงร็อกชาวรัสเซีย ไม่มีใบอนุญาตทำงานในประเทศ ส่งดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย เตรียมผลักดันออกนอกประเทศ  ส่วนประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองส่งกลับประเทศรัสเซียหรือไม่ เตรียมร่วมประชุมกับ สมช.พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง


ภายหลัง วงร็อกรัสเซีย Bi-2 จำนวน 7 คน ถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาไม่มีใบอนุญาตทำงาน หลังเดินทางเข้ามาแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา


วงร็อกรัสเซีย Bi-2 เป็นวงดนตรี ที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เป็นวงดนตรีที่มีจุดยืนต่อต้าน “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” ของรัสเซียในยูเครน จนถูกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวหาว่า วงร็อก BI-2 “สนับสนุนการก่อการร้าย” เพราะต่อต้านรัสเซียและประกาศสนับสนุนยูเครน


จนทำให้นักสิทธิมนุษยชนหลายฝ่ายกังวลว่าสมาชิกวงบางคนในวงดนคงตรี ที่มีสัญชาติรัสเซียที่อาจจะถูกส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง ต้องเผชิญกับอันตราย หากรัฐบาลไทยผลักดันกลับประเทศรัสเซีย


พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า เบื้องต้นทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เมื่อพบผู้กระทำความผิด ส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี และส่งตัวเข้าห้องกักที่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตามขั้นตอน ส่วนประเด็นเรื่องการผลักดันกลับไปยังประเทศต้นทาง ขณะนี้ผลักดัน 1 ในสมาชิกของวงไปแล้วแต่ไม่ใช่ประเทศรัสเซีย ส่วนบางคนในสมาชิกวงที่ถือ 2 สัญชาติ หากไม่ยินยอมกลับไปที่ประเทศต้นทางตามหนังสือเดินทางเข้าประเทศ ต้องประสานไปยังประเทศที่ 3 ที่บุคคลนั้นถือสัญชาติว่าพร้อมที่จะรับตัวเข้าประเทศหรือไม่


ส่วนเรื่องสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เมื่อปี 2566 คณะรัฐมนตรีฯ ได้ร่างหนังสือสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไประหว่างไทยกับรัสเซีย โดยผ่านการพิจารณาจาก ครม.แล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าสนธิสัญญาบรรลุข้อตกลงระหว่างประเทศแล้วหรือไม่ ช่วงบ่ายวันนี้ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะเข้าร่วมประชุมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ที่ดูแลเรื่องความมั่นคงของประเทศ เพื่อพิจารณาในการผลักดันสมาชิกวงดนตรีดังกล่าวกลับประเทศต้นทาง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่อาจจะเข้าข่ายผิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากล


ตามหลักสิทธิมนุษยชนแล้ว การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้ยกเว้นกรณีนักโทษทางการเมือง การเหยียดเชื้อ ไม่สามารถกระทำได้ หากบุคคลเหล่านั้นไม่ได้ทำความผิดในคดีอาญา หรือก่อเหตุอาชญากรรม โดยขั้นการส่งกลับประเทศ หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ทางสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไม่สามารถบังคับให้ออกนอกประเทศได้ (ให้กักตัวไว้จนกว่าจะพร้อม)


นอกจากนี้ตัวผู้กระทำความผิดสามารถยื่นขอหน่วยงานสากลอย่าง สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNSCR) หรือ องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ขอเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองได้ หากเข้าข่ายตามหลักสิทธิมนุษยชน และสามารถประกันตัวออกมาอาศัยในฐานะผู้ลี้ภัยได้แต่มีข้อแม้ห้ามประกอบอาชีพหรือกระทำการใด ๆ ที่ผิดต่อกฎหมายของประเทศนั้น

คุณอาจสนใจ