สังคม

หลาย รพ.สงสัยจัดสรร "ไฟเซอร์" แพทย์ด่านหน้าได้ไม่ครบจำนวน น้อยกว่าที่ขอไปเป็นเท่าตัว!

โดย pattraporn_a

9 ส.ค. 2564

49 views

ช่วงหลายวันมานี้ เกิดคำถามถึงเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับบุคลากรทางการแพทย์เป็นอย่างมาก หลังพบว่าหลายจังหวัดได้รับวัคซีนในจำนวนน้อยกว่าที่ได้ขอไปถึงเท่าตัว ขณะที่บางจังหวัดกลับได้รับการจัดสรรในปริมาณใกล้เคียงกับจังหวัดที่มีการระบาดหนัก


เฟสบุ๊กเพจโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความระบุถึงการจัดสรรวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า โดยได้รับการจัดสรรมาเพียง 60% เท่านั้น จึงมีการเปรียบเทียบว่าในวอร์ด โควิด-19 บุคลากร 10 คน จะได้ฉีดวัคซีนกระตุ้นเพียง 6 คนเท่านั้น อีก 4 คน จะไม่ได้รับวัคซีน และปฏิบัติหน้าที่ต่อไปด้วยความเสี่ยง


แม้ทางโรงพยาบาลจะดำเนินตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งการส่งรายชื่อและข้อมูลการฉีดวัคซีนครบถ้วน ตามเงื่อนไขผู้ที่จำเป็นและมีความเสี่ยงเท่านั้น ในจำนวนไม่ถึงครึ่งของบุคลากรทั้งหมด


เช่นเดียวกับ องค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น ได้ออกแถลงการณ์ระบุ ได้รับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์เพียง 700 โดส จากที่ขอไปให้กับบุคลากรด่านหน้าจำนวน 1,400 คน ซึ่งภาพรวมทั้งจังหวัดได้รับการจัดสรร 9,840 โด๊ส จากที่ขอไป 17,035 คน


ทางด้าน นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ก็ได้ระบุถึงกรณีนี้เช่นกัน หลังได้รับวัคซีนไฟเซอร์ราว 15,000โดส เพื่อกระจายฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับบุคลากรทางการแพทย์ทั้งจังหวัดที่มีมากกว่า 1 แสนคน


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ได้ชี้แจงประเด็นนี้ โดยระบุว่าการจัดสรรและกระจายวัคซีนไฟเซอร์ ได้ผ่านการสำรวจความต้องการของบุคลากรทางการแพทย์จากทุกโรงพยาบาลในทุกจังหวัด ซึ่งทางกรมควบคุมโรคมีนโยบายจัดส่งให้ในเบื้องต้น 50-60% ของความต้องการ จากนั้นจะสำรวจศักยภาพการฉีดแต่ละจุด และจะจัดสรรให้เพิ่มเติมในส่วนที่เหลือ


ล่าสุด นายแพทย์ พฤหัส ต่ออุดม ผอ.โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยกับข่าว 3 มิติ ว่า เพิ่งได้รับการจัดสรรวัคซีนจากกรมควบคุมโรคในวันนี้จนครบตามจำนวนบุคลากรที่ขอไป 2,447 คน


โดยล็อตแรกที่ได้รับเมื่อวันศุกร์มาจากทางจังหวัดปทุมธานี จำนวน 1,487 โดส และ ที่กรมควบคุมโรคส่งให้ทันทีวันนี้ 960 โดส อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลธรรมศาสตร์มีบุคลากรราว 4,000 คน ซี่งส่วนหนึ่งสมัครใจฉีดแอสตราเซเนก้าไปแล้ว ดังนั้นหากโรงพยาบาลใดมีข้อมูลรายชื่อและประวัติการรับวัคซีนที่ชัดเจน ก็ควรได้รับการจัดสรรวัคซีนครบตามจำนวนทันที เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา


หากพิจารณา 10 จังหวัดที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนล็อตนี้ จะพบว่ามีจังหวัดในพื้นที่สีแดงเข้ม 5 จังหวัด พื้นที่สีแดง 4 จังหวัด และ พื้นที่สีเหลือง 1 จังหวัด ทำให้เกิดข้อสงสัยจากภาคสังคมว่าเพราะเหตุใดจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ควมคุมสูงสุดและเข้มงวดที่เป็นพื้นที่เร่งด่วน มีผู้ติดเชื้อหลักพันคนต่อวัน จึงได้รับการจัดสรรวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์น้อยกว่า บางจังหวัดที่มีสถานการณ์ระบาดไม่รุนแรงเท่า




คุณอาจสนใจ

Related News