ศาลแพ่งสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามนายกฯใช้ข้อกำหนด ฉ. 29 คุมสื่อ-ปชช.

วันนี้ที่ศาลแพ่ง มีการพิจารณาคดีที่สำคัญเกี่ยวกับสื่อ 2 คดี คดีแรก ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามนายกรัฐมนตรี บังคับใช้ข้อกำหนดที่ 29 ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ผู้ใดที่โพสต์ข้อความอันทำให้เกิดความหวาดกลัว จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น โดยศาลเห็นว่าข้อกำหนดนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญที่คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และคดีที่สอง ศาลแพ่งรับคำฟ้อง 2 สื่อ ในคดีกระสุนยาง แต่รับฟ้องเฉพาะในส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่รับไต่สวนฉุกเฉินกรณีการทำข่าวชุมนุมในวันที่ 7 ส.ค.64

ศาลแพ่ง มีคำสั่ง ห้าม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บังคับใช้ข้อกำหนดที่ 29 ตาม พรก.ฉุกเฉิน ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อกำหนด ข้อ 1 ที่ห้ามเผยแพร่ข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวมิได้ จำกัด เฉพาะข้อความอันเป็นเท็จ ดังเหตุผลและความจำเป็นตามที่ระบุไว้ในการออกข้อกำหนดนี้ ย่อมเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของโจทก์ ที่เป็นสื่อมวลชนและประชาชน ทั้ง12 องค์กร ซึ่งรัฐธรรมนูญ 2560 บัญญัติคุ้มครองไว้

โดยข้อกำหนดข้อที่ 1 ที่ระบุว่าผู้ใดโพสต์ข้อความอันอาจทำให้เกิดความหวาดกลัว ไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์แนวทางในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อมิให้มีการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่โจทก์และประชาชน เกินสมควรกว่าเหตุ

และในข้อกำหนดข้อที่ 2 ที่ให้อำนาจระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่เลขที่อยู่ ไอพี (IP address) ที่มีการเผยแพร่ข้อความหรือข่าวสารในอินเทอร์เน็ตที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดนี้นั้น ไม่ปรากฏว่ามาตรา 9 แห่ง พรก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีออกข้อกำหนดให้ดำเนินการระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตจึงเป็นข้อกำหนดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

โดยศาลเห็นว่าในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ประชาชนใช้อินเตอร์เน็ตในการสื่อสาร จากมาตรการล็อกดาวน์ การระงับให้บริการอินเตอร์เน็ตในอนาคต เป็นการ ปิดกันการสื่อสารของบุคคลและปิดกั้นสุจริตชนผู้ไม่เกี่ยวข้องในการเผยแพร่ข้อความตามสิทธิเสรีภาพด้วย

ทนายความเปิดเผยด้วยว่า การมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาล ไม่ได้ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินได้รับการกระทบกระเทือนหรือก่อให้เกิดความเสียหาย เพราะรัฐบาลยังสามารถบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญาหรือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการเอาผิด กับข่าวเฟคนิวส์

ในขณะที่ตัวแทนสื่อมวลชน ขอบคุณศาลที่รับฟังเสียงของประชาชน การยื่นฟ้องครั้งนี้เพื่อรักษาสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดยเฉพาะความปลอดภัยในชีวิตจากโรคระบาด แม้ศาลจะมีคำสั่งชั่วคราว สื่อมวลชนจะทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและมีหัวใจความเป็นมนุษย์

นอกจากนี้เมื่อเวลา 17.15 น. ศาลแพ่งรับฟ้อง คดีที่ The Matter และ Plus seven เรียกค่าเสียหายตำรวจในคดีกระสุนยาง เฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ ยกคำฟ้อง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการควบคุมฝูงชน และยกคำขอให้ไต่สวนฉุกเฉินคุ้มครองการทำข่าวการชุมนุมในวันที่ 7 สิงหาคมและการชุมนุมถัดๆ ไป เพราะเป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ที่ยังไม่เกิด