สมุทรปราการอนุญาตปชช.รัศมี 1 กม.รอบ รง.หมิงตี้ กลับเข้าบ้านได้ หลังขนย้ายสารเคมีชุดแรกสำเร็จ

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เปิดให้ประชาชนในรัศมี 1 กิโลเมตร รอบบริษัทหมิงตี้เคมิคอล ได้กลับบ้านแล้ว หลังการเคลื่อนย้ายสารเคมีตกค้างในชุดแรกเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัยตามแผนที่กำหนดไว้ คาดว่าต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 5 วัน จึงจะเคลื่อนย้ายได้ทั้งหมด 600 ตัน จึงจะเริ่มเข้าเก็บสารเคมีตกค้างโดยรอบด้วย ในขณะที่ปฏิบัติการควบคุมเหตุไฟไหม้และสารเคมีระเบิดครั้งนี้ เป็นความร่วมมือสำคัญอีกครั้งหนึ่งของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการกู้ภัยจากสารเคมีอันตราย กลายเป็นเหตุการณ์ถ้ำหลวง 2

รถบรรทุกสารเคมีสไตรีน โมโนเมอร์ ตกค้างที่ผ่านการแปลงสภาพ ถูกนำใส่รถบรรทุกสารเคมี นำออกจากบริษัทหมิงตี้เคมิคอล เพื่อนำไปทำลายที่บริษัทอัคคีปราการ นิคมอุตสาหกรรมบางปู ได้อย่างเรียบร้อยและปลอดภัยใน 2 คันแรก เกือบ 30,000 ลิตร ตามแผนที่วางไว้ ทำให้ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ จึงเปิดให้ประชาชนในรัศมี 1 กิโลเมตร คือซอยกิ่งแก้ว 19 -25 หลังอพยพออกไปตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม รวม 5 วัน

สำหรับการเคลื่อนย้ายสารเคมี ดำเนินการโดย บริษัทอัคคีปราการ ที่คาดการณ์ว่าสามารถเคลื่อนย้ายได้วันละ 150 ตันต่อวัน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 5 วัน โดยทุกขั้นตอนมีความปลอดภัย ประชาชนไม่ต้องกังวัล เพราะขนถ่ายด้วยรถบรรทุกสารเคมีที่ได้มาตรฐาน ซึ่งการเคลื่อนย้ายนอกจากมีรถตำรวจนำขบวน ยังมีรถฉุกเฉินไปส่งที่โรงงานกำจัดขยะพิษ

ส่วนสภาพอากาศโดยรอบ กรมควบคุมมลพิษ ได้ตรวจสอบคุณภาพอากาศ เข้าสู่ภาวะไม่เป็นอันตรายแล้ว ส่วนคุณภาพน้ำ พื้นที่รอบโรงงาน ที่พบเมื่อฝนตกมีละอองฟอง ที่เกิดจากโฟม ไม่เป็นอันตรายแล้ว แต่ในส่วนน้ำเสียที่มาจากการเผาไหม้ของสารเคมี กรมชลประทานได้ปิดการระบายน้ำ ป้องกันไม่ให้รั่วไหล และแจ้งเตือนประชาชนไม่ให้สัมผัสและนำไปดื่ม เพราะจะเป็นอันตราย และจะมีการตรวจสอบคุณภาพอากาศ คุณภาพน้ำไปตลอด 1 เดือน

สำหรับรถบรรทุกสารเคมีจะถูกส่งเข้ากระบวนการเผาตามกรรมวิธีทีได้มาตรฐานและปลอดภัย ซึ่งเมื่อถ่ายเข้ารถบรรทุกจากเตาที่บริษัทหมิงตี้ ก็ถูกส่งไปที่บริษัทอัคคีปราการ นิคมอุตสาหกรรมบางปู ห่างจากถนนกิ่งแก้วประมาณ 30 กิโลเมตร และจำทำแบบนี้ไปจนจบภารกิจ

ส่วนพื้นที่โดยรอบที่อาจมีสารตกค้างและยังมีซากความเสียหาย จะต้องมีการกำจัด ตามขั้นตอนหลังจากนี้ด้วย เพื่อให้ปลอดภัย โดยวันพรุ่งนี้ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม จะลงพื้นที่เพื่อวางแผนดำเนินการ

ในขณะที่ประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ยังคงทยอยไปแจ้งความได้ที่ สภ.บางแก้ว และยื่นเรื่องรับเงินชดเชยจากราชการ ที่ อ.บางพลี ขณะนี้มีมูลค่าความเสียหายหลายร้อยหลายบาทแล้ว และบริษัทหมิงตี้ได้แสดงความรับผิดชอบเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น

ปฏิบัติการควบคุมสถานการณ์ไฟไหม้จากสารเคมีระเบิด ที่บริษัทหมิงตี้เคมิคอล ซอยกิ่งแก้ว 21 อ.บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ใช้เวลา 5 วัน นับจากเกิดเหตุเมื่อ 3 นาฬิกา วันที่ 5 กรกฏาคม เพลิงที่ลุกไหม้อย่างรุนแรง ต้องระดมนักดับเพลิง เข้าระงับเหตุจนเสียชีวิต ไป 1 ราย โดยใช้เวลากว่า 22 ชั่วโมงจึงจะปิดวาล์วได้ แต่ยังมีไฟปะทุต่อเนื่อง 2 วัน จนต้องระดมนักดับเพลิงและผู้เชี่ยวชาญมาแปลงสภาพสารเคมีเพื่อนำไปเคลื่อนย้ายได้ปลอดภัย ถือเป็นเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งสำคัญครั้งหนึ่งที่มีความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐเและเอกชนในการควบคุมสถานการณ์ให้ทุกชีวิตปลอดภัย ไม่ต่างจากเหตุการณ์ถ้ำหลวง 2 ที่ต้องขอบคุณทุกชีวิตกับปฏิบัติการในครั้งนี้