ศบค.ย้ำล็อกดาวน์ 14 วัน สกัดโควิด ขอปชช.ให้ความร่วมมือทำตามมาตรการ

ศบค.แจงข้อกำหนดฉบับ 27 ยกระดับมาตรการคุมเข้มโควิด "กทม.-ปริมณฑล รวม 4 จังหวัดภาคใต้" เริ่มมีผล 12 กรกฏาคมนี้ เป็นเวลา 14 วัน

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชี้แจงการยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด คือ กทม. ,สมุทรปราการ ,ปทุมธานี ,นนทบุรี ,นครปฐม ,สมุทรสาคร ,ปัตตานี ,ยะลา ,นราธิวาส ,สงขลา

โดยมาตรการสำคัญ ในกลุ่ม 10 จังหวัดแดงเข้ม คือ การห้ามออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 3 ทุ่มถึง ตี 4 หากผู้ใดฝ่าฝืน ถือว่ามีความผิดและต้องระวางโทษตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยกเว้นการปฏิบัติงานกลุ่มบุคคลที่ระบุไว้ ผู้ยกเว้นมีเหตุจำเป็นหรือได้รับอนุญาต

นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดเรื่องการเดินทางข้ามจังหวัด ให้ประชาชนหลีกเลี่ยง หรือชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัด หากไม่มีเหตุจำเป็น โดยเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองเข้า-ออก เพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงาน และการเดินทางของประชาชนทั่วไป จะมีการตั้งด่านตรวจตั้งแต่ 10 กรกฏาคมนี้ โดย โฆษก ศบค.ยอมรับว่า การล็อกดาวน์อาจทำให้ประชาชนเกิดความไม่สะดวก แต่ต้องร่วมมือกันสกัดการแพร่ระบาดของโรค

นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดปิดสถานที่เสี่ยง สปา ร้านเสริมสวย ร้านนวดแผนโบราณ / ปิดบริการห้างสรรพสินค้า ยกเว้นร้านขายยา ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านเครื่องมือสื่อสาร สถานที่ฉีดวัคซีน เปิดได้จนถึงเวลา 20.00 น.

เช่นเดียวกับร้านอาหารปิด 20 นาฬิกา ให้ซื้อกลับบ้าน /ห้ามนั่งในร้าน /ห้ามจำหน่ายสุรา ร้านสะดวกซื้อ เปิด 4.00 นาฬิกา ปิด 20 นาฬิกา / ระบบขนส่งมวลชน ปิดให้บริการ 21.00 -04.00 น. / สวนสาธารณะก็ปิดให้บริการ 20 นาฬิกา และห้ามรวมกลุ่มกิจกรรมเกิน 5 คน

ข้อกำหนดดังกล่าว ยังระบุถึง มาตรการป้องกันและรองรับผู้ติดเชื้อ โดยสนับสนุนการใช้สมุนไพร หรือการแพทย์แผนไทย บำบัดรักษาตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข เพิ่มโอกาสเข้าถึงการตรวจหาเชื้อ เร่งจัดตั้งสถานพยาบาลชั่วคราว รพ.สนาม รวมถึงการจัดตั้งศูนย์พักคอยรอการส่งตัว หรือระบบแยกกัก พร้อมเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และพื้นที่ระบาดที่เป็นกลุ่มก้อน

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/XJtTGoOf4bM