'สาธิต' เสนอตรงถึงนายกฯ มาตรการรักษาโควิดที่บ้าน ลดวิกฤตเตียงเต็ม – แจ้งหมอจบใหม่ ช่วยงานไอซียูสนาม

นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยถึงปัญหาเตียงรองรับผู้ป่วย โควิด-19 ยอมรับว่าเตียงเต็มทุกกลุ่ม เกิดปัญหาผู้ป่วยรอเตียงจำนวนมาก จากข่าวที่ออกมา ซึ่งพบผู้ป่วยรอเตียงจนเสียชีวิตอย่างเคสที่เขตราชเทวี ซึ่งทางกระทรวงได้พยายามประสานข้อมูลการรับผู้ป่วยแต่ก็ยังมีขั้นตอน ที่ต้องมีการตรวจสอบข้อมูลว่าผู้ติดเชื้อรับการตรวจที่สถานพยาบาลใดเพื่อดูประวัติและประสานการรับส่งต่อ

ทั้งนี้มีบุคลากรทางการแพทย์หลายฝ่ายที่พยายามส่งสัญญาณ ไปยังรัฐบาล เพื่อสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นว่าปลายทางการรักษา เรื่มมีปัญหาอย่างมากในการรักษา การแก้ไขต้องเริ่มจากต้นทาง ตน ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอแนวทางต่างๆเพื่อการร่วมแก้ปัญหา วิกฤตผู้ป่วยโควิดต่อนายกรัฐมนตรี โดยเสนอให้มีมาตรการที่เข็มข้น ในการควบคุมและป้องกันการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวจากกลุ่มคัสเตอร์ต่าง ๆ ที่พบการติดชื้อ

ซึ่งต้องยอมรับว่าสถานการณ์วันนี้การรับผู้ป่วยโควิดมีปัญหามาก กลับมาเห็นภาพผู้ป่วยติดเชื้อตกค้างรอเตียงที่บ้านจำนวนมากใกล้เคียงกับคราวก่อน โดยมีตกค้างในระบบประมาณ 600 คน และยังมีนอกระบบที่ยังไม่ได้แจ้งอีก และเริ่มอาจเห็นการเสียชีวิตที่บ้านแล้ว เพราะฉะนั้น ในส่วนของปลายทางคือการรักษามีผลกระทบมาก

นายสาธิต กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาเรื่องต้องอาศัย 4 เรื่อง ทำควบคู่กัน คือ

1.มาตรการต้องกลับมาเข้มข้นเพื่อควบคุมสถานการณ์ได้ทัน โดยเฉพาะการป้องกันการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างชาติ เนื่องจากขณะนี้ยังพบแรงงานต่างชาติเข้ามาในแคมป์คนงานใหม่

2.การส่งสัญญาณของรัฐบาลเพื่อสื่อสารกับประชาชนว่าสถานการณ์วิกฤตแล้ว ต้องร่วมมือช่วยกันควบคุมป้องกันโรคไม่ให้มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น

3.การฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่ง กทม.และปริมณฑล ขณะนี้ฉีดทั้งใน 2 กลุ่มเสี่ยง คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรังและกลุ่มประชาชนทั่วไป ซึ่งมีข้อเสนอว่าตอนนี้ต้องมาฉีดใน 2 กลุ่มเสี่ยงเท่านั้นเพื่อลดการป่วยรุนแรงเข้า รพ.

ซึ่งในกทม.มี 2 กลุ่มนี้ลงทะเบียนประมาณ 5 แสนคนใน ก.ค. ก็ต้องพยายามฉีดแอสตราเซเนกาให้ครบโดยเร็วที่สุด ตามศักยภาพการฉีด และเมื่อวัคซีนมีจำนวนมากพอก็ฉีดกลุ่มอื่นพร้อมกัน แต่ขอให้โฟกัสในพื้นที่ระบาด จุดที่เป็นคลัสเตอร์ ซึ่ง สธ.เสนอยุทธศาสตร์ขนมครก ไปเจาะในคลัสเตอร์และชุมชนโดยรอบ

4.การเปิดเตียงไอซียูสนามเพิ่มเติม ซึ่งจะเปิดทั้งในส่วนของ รพ.เอกชน และโรงเรียนแพทย์ คือ ม.ธรรมศาสตร์ รพ.รามาธิบดี และวชิรพยาบาล ประมาณ 50 เตียงภายใน 7 วัน และต้องหาบุคลากรทางการแพทย์มาเพิ่มเติมด้วย

นอกจากนั้นนายสาธิต ยังมีข้อเสนอมาตรการใหม่เรื่อง Home Isolation โดยให้ผู้ป่วยโควิดสีเขียวกักตัวที่บ้าน และมีมาตรการติดตามอาการในแต่ละวัน มีระบบเทคโนโลยีติดตามตัวว่าอยู่ภายในบ้าน เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อ ซึ่ง สธ.มีแผนรองรับแล้ว ซึ่งผมได้เสนอนายกฯ ไปก่อนบ้างแล้ว และวันนี้ทางคณบดีแพทย์ต่างๆ อธิบดีกรมการแพทย์จะหารือเพื่อเสนอนายกฯ เข้าสู่การพิจารณาของ ศบค.กทม.ในการตัดสินใจ หากเห็นชอบก็ดำเนินการได้ ซึ่งในเรื่องของการรักษาทาง สธ. กรมการแพทย์สนับสนุนอย่างเต็มที่แล้ว เมื่อมีปัญหาวันนี้ก็ต้องเสนอมาตรการ

ด้าน นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้เตียงผู้ป่วยโควิดตึงเกือบทุกระดับ โดยเฉพาะภาครัฐทั้งเตียงสีแดง เหลือง และเขียว แม้แต่ฮอสปิเทลและ รพ.สนามภาครัฐก็ค่อนข้างตึง ซึ่งภาครัฐเตียงสีแดงเหลืออีกเพียง 2-3% เท่านั้น เต็มเกือบหมดอาจมีว่างบางช่วง เช่น ตอนที่รักษาหายอาการดีขึ้น หรือมีผู้เสียชีวิต แต่วันต่อวันตึงมาก บางทีจะย้ายเข้าก็ไม่มีเตียงให้ย้าย อย่าง รพ.ราชวิถีรับคนไข้เดินฉุกเฉินอื่นด้วย ก็ต้องเตรียมอย่างน้อย 1 เตียงรับคนไข้ แต่เรียนตรง ๆ เตียงไอซียูตึงมากมาเป็นสัปดาห์แล้ว

ทั้งนี้ทางเอกชนและโรงเรียนแพทย์จะเปิดไอซียูสนามเพิ่ม 50 เตียง แต่ยังไม่มีคนทำงาน จึงทำหนังสือไปที่ สธ. ให้นำแพทย์ประจำบ้านที่เพิ่งเรียนจบแล้วต้องไปใช้ทุนวันที่ 1 ก.ค. ยังไม่มองไปใช้ทุน แต่ให้มาช่วยไอซียูสนามก่อน ส่วนพยาบาลไอซียูอาจจะต้องระดมจากจังหวัดที่ระบาดไม่มากมาช่วยใน กทม.

ชมผ่านยูทูบที่ : https://youtu.be/vzNUmWNj3Ig