สังคม

ราชทัณฑ์จ่อเปิดโครงการพิเศษ ลดวันต้องโทษ-พักโทษ เน้นผู้มีโรคประจำตัว-สูงอายุ ลดความแออัดในเรือนจำ

โดย thichaphat_d

19 พ.ค. 2564

953 views

นายอายุตม์ สินธุพันธ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า พบยอดผู้ต้องขังที่ติดเชื้อรายใหม่ ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 มีทั้งสิ้น 1,117 คน ทำให้มียอดผู้ต้องขังติดเชื้อรวมเป็น 12,767 คน และมีเรือนจำ 2 แห่งที่รักษาผู้ติดเชื้อจนหายทุกคนแล้ว และไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม คือ เรือนจำจังหวัดนราธิวาส และเรือนจำอำเภอแม่สอด ทำให้ตอนนี้เหลือเรือนจำที่มีผู้ติดเชื้อแค่ 11 แห่ง โดยได้สั่งให้ทุกเรือนจำปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมดดังนี้


1. ตั้งโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ เพ่อมีการติดเชื้อ

2. เรือนจำในต่างจังหวัด ตั้งศูนย์บริหารจัดการ

3. เน้นคัดกรอง ตรวจโรคผู้ต้องขังทันที เอ็กเรย์ปอดทุกคน ต้องจ่ายยาป้องกันไม่ให้เชื้อลงปอด

4. ใส่คลอรีนในน้ำอาบของผู้ต้องขัง เพื่อฆ่าเชื้อ

5. เรือนจำที่ไม่พบเชื้อให้ค้นหาเชื้อทุกคนทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังให้ครบ 100 % และสุ่ตรวจต่อเนื่อง

6. ถ้าพบผู้ต้องขังที่ไอ มีน้ำมูกให้สวอปทันที

7. สำหรับผู้ต้องขังที่ติดเชื้อเจ้าหน้าที่จะแจ้งญาติเป็นรายบุคคลและจะติดตามอาการให้ทราบเป็นระยะ เพื่อความสบายใจ

8. กรณีปล่อยตัวผู้ต้องขังที่มีการติดเชื้อก่อนปล่อยต้องประสานงานสาธารณสุขในพื้นที่ของผู้ต้องขังก่อน เพื่อหามาตรการดูแลและรองรับต่อไป


ส่วนสาเหตุการแพร่ระบาดอาจจะเกิดจากเจ้าหน้าที่ฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามระเบียบการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เพราะก่อนหน้านี้เน้นย้ำมาตลอดว่าคนในไม่ให้ออก คนนอกไม่ให้เข้า เจ้าหน้าที่บางคนต้องไปเฝ้าผู้ต้องขังป่วยข้างนอก อาจจะเสี่ยงติดเชื้อ จะไม่ให้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ภายในแดน แต่เจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านในแดนมีคำสั่งชัดเจนไม่ให้ไปสถานที่เสี่ยง หากฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษ


และอีก 1 มาตรการสำคัญที่กรมราชทัณฑ์เร่งทำ เพื่อลดความแออัดในเรือนจำ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการติดเชื้ออย่างรวดเร็วและวงกว้าง คือ ให้สิทธิ์ผู้ต้องขังยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยจะทำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาให้เปิดโครงการพิเศษลดวันต้องโทษและพักโทษ เป็นการขยายเกณฑ์และปลดล็อค โดยไม่ดูเรื่องจำนวนวันที่ติด ซึ่งจะเน้นผู้ต้องขังที่มีโรคประจำตัวและสูงอายุก่อน คาดว่าจะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดในเรือนจำดีขึ้น

คุณอาจสนใจ

Related News