เลือกตั้งและการเมือง
'ทนายด่าง' ฉีกแถลงกรมราชทัณฑ์ กลางงานเผาศพ 'บุ้ง' จี้สอบมาตรฐาน รพ.ราชทัณฑ์ ป้องกันเกิดกับผู้ต้องขังอื่น
โดย nattachat_c
20 พ.ค. 2567
58 views
วานนี้ (19 พ.ค. 67) เวลา 14.00 น. ที่วัดสุทธาโภชน์ ลาดกระบัง กรุงเทพฯ ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจศพ น.ส.เนติพร หรือ 'บุ้ง ทะลุวัง' นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แถลงคำชี้แจงหน้าเมรุเผาศพ น.ส.เนติพร หลังกรมราชทัณฑ์ออกเอกสารยืนยันการรักษา น.ส.เนติพร ว่าให้การช่วยเหลือตามมาตรฐานการรักษาวิชาชีพของแพทย์
โดยแพทย์ดำเนินการใส่ท่อช่วยหายใจ ได้นวดหัวใจ พร้อมให้ยากระตุ้นหัวใจ ยากระตุ้นความดันโลหิตตามมาตรฐานการช่วยชีวิตขั้นสูง และทีมบุคลากรทางการแพทย์ให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดตลอดช่วงเวลา จนส่งตัวผู้ป่วยถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งหลังจากที่ทนายกฤษฎางค์อ่านคำแถลง ชี้แจงของกรมราชทัณฑ์เสร็จ ก็ได้ฉีกกระดาษที่เป็นเพรสของกรมราชทัณฑ์ทันที
จากนั้น นายกฤษฎางค์ ได้อ่านคำชี้แจงเรื่องข้อสังเกตในการรักษาพยาบาล/กู้ชีพ โดยได้นำบันทึกการรักษาของ น.ส.เนติพร จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มาอ่าน เพื่อชี้แจงว่า
น.ส.เนติพร หมดสติในเวลา 06.23 น. ซึ่งขณะนั้น ไม่มีสัญญาณชีพ และมีการทำ CPR จนกระทั่ง ถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ในเวลา 09.30 น. และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดยสาเหตุการเสียชีวิตจากการชันสูตรพลิกศพลงความเห็นว่า ภาวะหัวใจล้มเหลวโดยเฉียบพลัน / ภาวะสมดุลเกลือแร่ผิดปกติ / และภาวะหัวใจโต / ส่วนผลการตรวจหาสารพิษอยู่ระหว่างการรอผล
โดยจากข้อมูลการรักษาจากเวชระเบียนที่ได้รับจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่รับ น.ส.เนติพร มารักษาในเวลา 09.30 น. ขณะนั้น ไม่มีสัญญาณชีพคลื่นหัวใจ แรกรับไม่มีคลื่นไฟฟ้าของหัวใจข้างล่าง (Asystole) ไม่มีเสียงลมในปอด แต่กลับได้ยินที่บริเวณลิ้นปี่ และพบท่อช่วยหายใจอยู่ในหลอดอาหาร
รวมถึงค่าคาร์บอนไดออกไซด์ ที่วัดการหายใจ ( ETCO2) เท่ากับ 0 มิลลิเมตรปรอท ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจใหม่ที่ห้องฉุกเฉิน และหลังใส่ท่อช่วยหายใจใหม่ ก็ได้ยินเสียงลมที่ปอดทั้ง 2 ข้าง และ ค่าคาร์บอนไดออกไซด์ ที่วัดการหายใจ (ETCO2) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10 มิลลิเมตรปรอท
ทนายกฤษฎางค์ ได้ตั้งข้อสงสัยถึงการกู้ชีพ ตั้งแต่ที่น.ส.เนติพร ล้ม และไม่มีสัญญาณชีพ ตอน 06.23 น. เป็นเวลา 3 ชั่วโมง กว่าจะมาถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์
ทนายกฤษฎางค์ ยังบอกอีกว่า การใส่ท่อช่วยหายใจในหลอดอาหารเป็นสิ่งที่พบได้ แต่ตามมาตรฐานวิชาชีพ การตรวจสอบเพื่อยืนยันตำแหน่งท่อช่วยหายใจทันทีเป็นเรื่องพื้นฐาน หากไม่แน่ใจต้องมีวิธีในการยืนยัน เพื่อให้แน่ใจว่าตำแหน่งของท่อช่วยหายใจอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่
และแม้การใส่ท่อช่วยหายใจผิดตำแหน่งอาจไม่ได้เป็นสาเหตุการเสียชีวิต แต่ก็เป็นหนึ่งในความผิดพลาดร้ายแรง ที่ทำให้โอกาสการคืนชีพของ น.ส.เนติพร น้อยลง จนกลายเป็นแทบไม่มีโอกาสการรอดชีวิต
ดังนั้น ทนายความและครอบครัวจึงตั้งคำถามกับทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน.ส.เนติพร ตั้งแต่การดูแลก่อนการเสียชีวิต การกู้ชีพไปจนถึงการส่งตัวเพื่อรักษาต่อ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ทราบถึงมาตรฐานของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ถูกคุมขังคนอื่นที่ต้องใช้โรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่เกิดเหตุในลักษณะเช่นเดียวกับ น.ส.เนติพร อีก ทนายกฤษฎางค์ ยังบอกอีกว่าสิ่งที่ตน และครอบครัว น.ส.เนติพร สงสัยนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
นอกจากนี้ ทนายกฤษฎางค์ ยังระบุอีกว่า ได้สอบถามรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ว่ารถฉุกเฉินที่นำตัว น.ส.เนติพร ไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ภายในมีแพทย์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ อยู่ในรถคันดังกล่าวอีกด้วย
ขณะที่ วันนี้ (20 พ.ค.) เวลา 09.30 น. ทีมทนายความ และกลุ่มเพื่อนจะเดินทางไปยังโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อขอประวัติการรักษา น.ส.เนติพร 5 วัน ก่อนเสียชีวิต หลังถูกเลื่อนการส่งเอกสารมาถึง 7 ครั้ง
--------------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/0EpV9m5vRKc