สังคม

ภาคประชาสังคม เรียกร้องไทยเปิดทางช่วยเหลือผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงลี้ภัยสู้รบ

โดย panwilai_c

7 พ.ค. 2564

44 views

ทหารกะเหรี่ยง KNU ยึดฐานทหารเมียนมา ริมน้ำสาละวินได้อีก 1 ฐาน รวมเป็น 3 ฐานแล้ว ในขณะที่กองทัพเมียนมา ยังคงมีปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในรัฐกะเหรี่ยง ทำให้ประชาชนในเขตมือตรอริมน้ำสาละวิน กว่า 7 พันคน ยังหลบหนีอยู่ในป่า และอีกกว่า 2 พันคน อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวฝั่งไทย ยังไม่กล้าเดินทางกลับ ภาคประชาสังคมเรียกร้องรัฐไทย เปิดทางช่วยเหลือด้านมนุษธรรม หลังผ่านมา 10 วัน เริ่มขาดแคลนอาหารและถูกปิดเส้นทางการเข้าถึง


กระเป๋าเป้ยังชีพสำหรับเด็ก ที่มูลนิธิเครือข่ายสถานะบุคคล จัดเตรียมไว้ประมาณ 500 ชุด ยังคงวางไว้ที่สำนักงานในอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังจากไม่สามารถนำส่งให้ผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง ที่หนีภัยการสู้รบมายังประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน ที่ส่วนใหญ่จะมีเด็ก ผู้หญิง และคนชรา


โดยภายในถุงเป้ มีรองเท้าเด็ก ผ้าห่ม ขนม นม และตุ๊กตา ที่ นายสันติพงษ์ มูลฟอง ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายสถานะบุคคล บอกว่า นี่เป็นสิ่งของจำเป็นเบื้องต้น ที่สำคัญต่อชีวิตของผู้อพยพ ที่พวกเขากำลังเผชิญกับความตาย มาไม่ต่ำกว่า 1 เดือนแล้ว


จากจำนวนกว่า 2 พันคน ที่รัฐไทยจัดให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 4 จุดตามลำห้วยในต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จุดใหญ่สุดคือผู้อพยพจากค่ายอีตูท่า กว่า 1 พันคนในห้วยอุมปะ พบว่ากำลังขาดแคลนอาหาร เพราะที่นำติดตัวมาได้ เป็นของบริจาคจาการสู้รบเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่มีการส่งทางเรือไปได้เล็กน้อยเท่านั้น การอพยพครั้งใหม่ พวกเขาจึงมีข้าวสารมาครอบครัวไม่ถึง 2 ลิตร ทำให้ต้องอดมื้อกินมื้อ จึงไม่เพียงพออย่างที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยรายงาน และมีเด็กทารกที่ท้องร่วง และไข้มาลาเรีย จึงอยากให้มีการเปิดทางช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยด่วน


ล่าสุดวันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 10 นาฬิกา ทหารกะเหรี่ยง KNU ได้เข้ายึดฐานอูถูท่า ของกองทัพเมียนมา ได้อีก 1 ฐาน เป็น 3 ฐานริมน้ำสาละวิน ซึ่งอยู่เหนือบ้านแม่สามแลบ ก่อนถึงบ้านท่าตาฝั่ง มีการเผาทำลายค่าย และยึดอาวุธไปจำนวนหนึ่ง ทำให้หลังจากนั้นไม่นาน กองทัพเมียนมา ใช้เครื่องบินรบโจมตีพื้นที่ชั้นในของกองพล 5 เขตมือตรอ แสดงให้เห็นว่า แม้กองทัพเมียนมาจะประกาศหยุดยิงอีก 1 เดือน


แต่ยังมีการสู้รบในรัฐกะเหรี่ยง ทำให้ประชาชนกว่า 3 หมื่นคนยังกลายเป็นผู้พลัดถิ่นในประเทศ ยังคงหลบหนีลูกระเบิดทั้งกลางวันและกลางคืน ท่ามกลางไร่นาที่เสียหาย จึงคาดหวังว่าทหารกะเหรี่ยงจะได้รับชัยชนะโดยเร็ว


การเข้าพบ นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ของเครือข่ายภาคประชาชน เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อหารือถึงแนวทางช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม โดยมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้หนีภัยการสู้รบ มา 1 ชุด เป็นความหวังหนึ่งที่จะให้เห็นกระบวนการทำตามที่แท้จริง แม้จะมีสถานการณ์โควิด-19 แต่ในพื้นที่ กองพล 5 รัฐกะเหรี่ยง เป็นพื้นที่ป่าที่ไม่มีการแพร่ระบาด จึงอยากเห็นแนวทางที่ดีกว่านี้ รวมถึงการแสดงบทบาทจากองค์ระหว่างประเทศ เช่น สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ด้วย


คณะทำงานเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้หนีภัยการสู้รบชายแดนไทย-เมียนมา ยังเป็นห่วงการผลักดันกลับ ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นในเวลานี้ เพราะสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย และอยากเห็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จริงจังมากกว่า การให้เพียงพื้นที่ปลอดภัยแล้วให้ผู้ลี้ภัยอยู่อาศัยกันตามยถากรรม ซึ่งจากการสอบถามพวกเขายืนยันว่าขอลี้ภัยเพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่มีใครปราถนาที่จะต้องอยู่ในค่ายผู้อพยพเหมือนอีกเกือบ 1 แสนคน ที่ไม่ได้กลับบ้านมาเกือบ 30 ปีแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News