ผู้นำ KNU ขอบคุณรัฐบาลไทย ช่วยเหลือผู้อพยพกะเหรี่ยง รับสถานการณ์ยืดเยื้อแต่จำเป็นต้องสู้รบ

ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมาด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน รายงานตัวเลขผู้อพยพจากรัฐกะเหรี่ยง เข้ามาพักในพื้นที่ปลอดภัย 4 แห่ง ทั้งบริเวณห้วยอีนวล ห้วยโกเฮ ห้วยอูมปะ และห้วยออเลาะ ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง ซึ่งเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติสาละวิน จึงอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อุทยาน รวมถึงทหาร กรมทหารราบที่ 7 และกรมทหารพรานที่ 36 ควบคุมสถานการณ์ ห้ามบุคคลภายนอกเข้าถึง เนื่องจากทหารพม่ายังมีปฏิบัติการโจมตีกองกำลัง KNU ด้วยการยิงจรวด 10 ลูก

และยิงปืนจากอากาศสู่พื้นเป็นชุดๆ บริเวณทางด้านทิศตะวันตก ฐานฯ ด๊ากวิน รัฐกะเหรี่ยง ด้านตรงข้ามฐานฯ บ. ท่าตาฝั่ง ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 9 กม. ในวันที่ 1 พฤษภาคม และในช่วงเย็น ได้ยินเสียงเครื่องยิงลูกระเบิด จำนวน 6 นัด ห่างจากฐานด๊ากวิน ประมาณ 500 ม. และช่วงค่ำอีก 11 นัด ซึ่งผู้อพยพต่างใช้ผ้าเต้นท์เป็นเพิงพัก พบว่าในกลุ่มนี้มีหญิงท้อง 8 เดือน และพบว่ามีเด็กเป็นไข้มาลาเรียด้วย กำลังต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์ และอาหารที่เริ่มเข้าสู่วันที่ 5 แล้ว

พล.ต.เน่อดา เมียะ ผู้บัญชาการองค์กรป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยง(KNDO) สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ให้สัมภาษณ์ผ่านวีดีโอคอล ขอบคุณรัฐบาลไทยที่เปิดพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวช่วยเหลือผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง ซึ่งสถานการณ์สู้รบจะรุนแรงขึ้น ทำให้ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง การยึดฐานซอแลท่า ตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ ส่งผลให้ทหารพม่าเสียชีวิต 40 นาย ซึ่งเคอ็นยูจำเป็นต้องทำเพื่อรักษาดินแดนกะเหรี่ยง และการสู้รบครั้งนี้สำคัญในการล้มอำนาจเผด็จการทหารพม่า ที่ทหารและประชาชนกะเหรี่ยง ยังให้การสนับสนุน และร่วมกันต่อสู้ด้วยความมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เชื่อมั่นว่าจะได้รับชัยชนะในที่สุด

พล.ต.เน่อดา เมี๊ยะ ยังคาดหวังว่าทุกชาติพันธุ์จะร่วมกันต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงรัฐบาลไปสู่ประชาธิปไตย รวมทั้งการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ หรือ NUG ต้องได้รับการยอมรับจากนานชาติด้วย และอาเซียนต้องไม่ให้การสนุบสนุนเผด็จการเปิดทางให้เข้าถึงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม KNU จึงต้องขอโทษประชาชนไทยที่ได้รับผลกระทบด้วย และเป็นห่วงการโจมตีทางอากาศของทหารพม่า ที่มีรายงานว่า เครื่องบินของพม่าบินเข้ามาในเขตไทยและมีระเบิดตก 2 ลูก ตกในฝั่งไทยด้วย ซึ่งทหารไทยน่าจะทราบแล้ว เชื่อว่าไทยจะแจ้งเตือนพม่าไม่ให้ปฏิบัติการกระทบกับคนไทย

ซึ่งประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นฝ่ายไทยหรือ TBC แม่ฮ่องสอนได้ทำหนังสือไปยัง TBC จังหวัดเมียวดีขอให้ทหารเมียนมาเพิ่มความระมัดระวังในการใช้กำลังโจมตีทางอากาศอย่างสูงสุดเพื่อมิให้มีกระสุน ระเบิดตกเข้ามายังฝั่งไทย ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายต่อประชาชนไทย ที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนและอาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ ขณะที่ศูนย์สั่งการชายแดน รายงานว่า ยังไม่พบการบินรุกล้ำน่านฟ้าเข้ามาในฝั่งไทย ยังไม่ถือว่าเป็นการละเมิดหรือรุกล้ำอธิปไตยของไทย

ขณะที่พลเอก บอจ่อ แฮ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด KNLA ของKNU ได้ส่งสาส์นให้กำลังใจผู้นำกองกำลังทหารกะเหรี่ยงของ KNLA, DKBA, KNU/KNLA-PC และ BGF ซี่งเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดนภายใต้กองทัพเมียนมา ที่มีรายงานข่าวว่ามีคำสั่งให้มาช่วยเหลือกองทัพพม่า จึงเป็นสิ่งที่พลเอกบอจ่อแฮ ของให่ทหารกะเหรี่ยงทุกกลุ่ม รวมพลังกันสู้ ในวันที่ไม่เคยมีโอกาสดีเท่าวันนี้ในรอบกว่า 70 ปีของการปฏิวัติกะเหรี่ยง ที่จะโค่นล้มอำนาจการปกครองของเผด็จการทหารพม่า เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้รับการปลดปล่อยและอยู่อย่างอิสระ