ภรรยา 'บัวขาว' ยื่นฟ้องทวงสิทธิ์ให้ลูก 25 ล้าน - เพจ 'Banchamek Gym'โต้ด้วยภาพ หลังเกิดดราม่า

นางสาวอัญวีณ์ พรชัยวิบูลย์ หรือ เก๋ ภรรยา ของนายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว นักมวยชื่อดังระดับโลกของไทย พร้อมทนายอนันต์ชัย ไชยเดช นำหลักฐานยื่นฟ้อง เอกสารสำคัญ อาทิ สูติบัตร และเอกสารอื่นๆ มายื่น ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อให้ บัวขาว รับรอง เด็กหญิงพิมพ์ญาดา บัญชาเมฆ "น้องมีตังค์" หรือ "น้องข้าวหอม" อายุ 5 ปี ให้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย พร้อมทั้งเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร

โดยนางสาวอัญวีณ์ หรือคุณเก๋ เปิดเผยว่า ตนและบัวขาว อยู่กินมากว่า 5 ปีแล้ว ไม่เคยเปิดเผย เห็นแก่พี่บัวขาว แต่วันนี้ตนมาขอให้สิทธิ์ให้ลูก เพราะการกระทำของพี่บัวขาว ส่งผลกับลูก เวลาลูกไปโรงเรียน หรือไปในสถานที่ต่างๆ เห็นพ่อของเขา แต่พูดไม่ได้ บอกใครไม่ได้ว่านี่คือพ่อ ต้องเก็บความรู้สึกไว้ และในระยะหลัง พี่บัวขาว ไม่มาหาลูกไม่ดูแล ส่งผลกระทบต่อความรู้สึก และ สภาพจิตใจ ทำให้ลูกมีปมด้อย

ตนและบัวขาวรู้จักกันปลายปี56 จากร้านอาหารย่านทองหล่อ และเริ่มคบกันปี57 ตั้งครรภ์ปี58 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่กินกันมา ตนเองทำหน้าที่ของภรรยาที่ดี และซื่อสัตย์ต่อพี่บัวขาว มาโดยตลอด ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2558 ตนเองได้คลอดลูก ตั้งชื่อว่า "น้องมีตัง" หรือน้องข้าวหอม ซึ่งในใบสูติบัตรได้ระบุชื่อ นายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว เป็นบิดาของน้องมีตัง ซึ่งทาง "บัวขาว" ก็รับทราบ และมิได้ทักท้วงแต่อย่างใด และยินยอมให้ใช้นามสกุล “บัญชาเมฆ” ซึ่งเป็นนามสกุลของบัวขาว

ที่ผ่านมาสัมพันธ์ในครอบครัวอยู่ด้วยกันดีมาตลอด พอคลอดน้องได้สักพัก ก็มาซื้อบ้านอยู่ใกล้กับค่ายมวย ในซอยโพธิ์ แก้ว3 ย่านรามอินทรา อาศัยในบ้านหลังเดียวกันมาตั้งแต่ปี 58 จนถึงปัจจุบัน แต่ระยะหลังพี่บัวขาว ก็ไปเปิดค่ายมวยที่ต่างจังหวัด และมีงานมาตลอด ก็เริ่มไม่กลับมาบ้าน ตนเข้าใจว่าไป ทำงาน ติดงาน ก็เลี้ยงดูลูกมาตลอด ระยะหลังก็คุยโทรศัพท์ สั้นๆก็ตัดสายไป แต่พอลูกเริ่มโต เขามีความรู้สึกเกิดคำถามว่าพ่อไปไหน ตนจะบอกลูกว่า พ่อไปทำงาน

ครั้งล่าสุดที่ พี่บัวขาว มาหาลูกวันที่15 ก.พ.64 แล้วก็หายไป ตนต้องทนกับการกระทำแบบนี้ มานาน แต่ที่รับไม่ได้คือความรู้สึกลูก ที่เห็นคนอื่นมีพ่อแม่ แต่ลูกตนมีพ่อ แต่บอกใครไม่ได้ เห็นพ่อในทีวี ในโปสเตอร์ ในโฆษณา ต่างๆ ก็ได้แต่เก็บความรู้สึก บอกใครไม่ได้ว่านี่คือพ่อ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นตั้งแต่ปี60 มา ตนเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด พี่บัวขาวมีช่วยบ้างแต่ไม่เคยเกิน 2 หมื่นบาท และลูกยิ่งโต ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้น ตนมีภาระต้องดูแลพ่อแม่ชราด้วย และเลี้ยงด้วยมันภาระมันเยอะ

และการที่ออกมาเรียกร้องนี้ไม่ได้ต้องการเงิน ไม่ได้ต้องการทำลายชื่อเสียงของบัวขาว แต่ต้องการความยุติธรรมและทวงสิทธิ์ให้กับตนเองและลูก ซึ่งในฐานะแม่ จิตใจของลูกสำคัญที่สุด ที่ผ่านมาบอกกับพี่บัวขาวมาตลอดเรื่องนี้ ให้พี่บัวขาวมาจดทะเบียน รับรองบุตร แต่ก็บ่ายเบี่ยงตลอด อ้าง ไม่มีตัง ติดงาน และมีเหตุผลอื่นๆ แต่สิ่งที่เป็นจริงมันย้อนแย้ง จึงมายื่นต่อศาล ให้พี่บัวขาวจดทะเบียนรับรอง "น้องมีตัง" เป็นบุตร โดยให้ตนเองเป็นผู้มีอํานาจปกครอง แต่เพียงผู้เดียว ผู้สื่อข่าวสอบถาม อยากฝากอะไรถึงพี่บัวขาว คุณเก๋ก็น้ำตาซึม บอกว่า "พี่บัวคิดถึงลูกบ้างหรือเปล่า เขาจะดีใจมากที่เห็นหน้าพ่อในสื่อ เพลงของพี่บัวขาวลูกก็ร้องได้ตั้งแต่แรกที่ฟัง อยากให้นึกถึงความรู้สึกของลูกบ้าง"

ทางด้าน ทนายอนันต์ไชย เปิดเผยว่า ที่ต้องมายื่นฟ้องนายบัวขาวนั้น เพราะสงสารเด็ก ซึ่งเป็นลูกแท้ๆของนายบัวขาว ซึ่งคดีครอบครัวนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ตนรับทำคดี เพราะเข้าใจชีวิตของลูกนักมวยดี เพราะตนก็เป็นลูกของนักมวยเช่นกัน เข้าใจความรู้สึกดี ซึ่งเรื่องนี้ มีหลักฐานทุกอย่างครบ จึงมายื่นต่อศาลเพื่อเข้าสู่กระบวนการ เพราะเด็กต้องมีพ่อ ตามกฎหมาย และในเมื่อคุณบัวขาวเป็นพ่อ ก็ต้องรับผิดชอบ ทีมข่าวพยายามติดต่อทางคุณบัวขาว และผู้จัดการ ก็ไม่สามารถติดต่อได้

ล่าสุดเพจ Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) ได้มีความเคลื่อนไหวถึงเรื่องนี้ว่า “ตามข่าวที่ออกมาตามสื่อต่างๆ ตอนนี้ครับ เรียกค่าเลี้ยงดู 25 ล้านบาท พี่บัวไม่เคยเลี้ยงดูบุตร พี่บัวไม่เคยสนใจลูก ลูกไม่ได้เจอพ่อเลย พี่บัวไม่ส่งเลย คุณแม่เลี้ยงคนเดียว เเละเห็นใจพี่ทนาย แถมเจอเรื่องแบบนี้ตอนยังเล็ก อะไรอื่นๆ อีกมากมายก็ให้กำลังใจ พี่บัวขาว กับลูกสาวขอให้ผ่านเรื่องราวนี้ไปให้ได้ครับ”

ต่อมา เก๋ อัญวีณ์ ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า FB เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเราก็จริงอยู่ที่เราจะโพสต์อะไรก็ได้ “แต่..ควรจะอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง..ควรเลือกพูดให้ดีค่ะ ไม่งั้นอาจกลายเป็น..ได้ไม่คุ้มกับที่เสีย!! ละเอียดอ่อนมากๆ”

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/8I8FVFwtw9E