สว.ฉะ อดีตพระเถระ 5 รูป คดีเงินทอนวัด หลังทำพิธีกลับครองจีวร

กรณีที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ประกอบพิธีกลับครองจีวรให้แก่อดีตพระเถระ 5 รูปที่เคยถูกฟ้อง ดำเนินคดีฐานร่วมกันทุจริตและยักยอก เงินงบประมาณโครงการสนับสนุนคุณธรรมและจริยธรรม สำหรับเด็กและเยาวชน ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ปรากฎว่าวันนี้ นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. และเป็นโฆษกคณะกรรมาธิการ การศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ได้ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า พระเถระทั้ง 5 ขาดจากความเป็นพระไปแล้ว การเอาจีวรมาห่มก็คือการแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ เป็นความผิดกฎหมายอาญา

นายวันชัย เขียนอธิบายในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า กรณีอดีตพระพรหมสิทธิวัดสระเกศและคณะ รวม 5 คน ทำพิธีเอาจีวรมาห่มแล้วทำพิธีในพระอุโบสถวัดสระเกศ ตามที่เป็นข่าว และแถลงในทำนองว่าพระไม่ผิด ไม่ติดคุก และไม่เคยลาสิกขา จึงเอาจีวรมาสวมใส่เป็นพระได้เหมือนเดิม นั้น เป็นการท้าทายอำนาจรัฐ ท้าทายอำนาจสงฆ์ บิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้ชาวพุทธเกิดสับสนว่าใครผิดใครถูกกันแน่

พร้อมแจกแจงเพื่อความเข้าใจ ใน 3 ประเด็น คือข้อแรกเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาว่าพระและฆราวาสเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันกระทำผิดเบียดบังยักยอกเอาทรัพย์ของหลวงไปใช้ มิได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ลงโทษไปแต่ละบุคคล ติดคุกมากน้อยต่างกันไป ส่วนพระก็มีความผิดเช่นกัน แต่ให้รอลงอาญาไว้ ไม่ได้หมายความว่าไม่ติดคุก ไม่ผิด ความจริงก็คือผิด แล้วจะฎีกาได้หรือไม่เป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง แต่ขณะนี้ชัดเจนแล้วว่าผิดเรื่องเบียดบังยักยอกเงิน

ประเด็นต่อมา พระถ้ากระทำผิดเรื่องลักทรัพย์ เบียดบัง ยักยอกเรื่องเงิน เป็นปาราชิก ขาดจากความเป็นพระแล้ว จะเปล่งวาจาลาสิกขาหรือไม่ ไม่สำคัญ แค่เอาทรัพย์ไปเกิน 300 บาทก็ขาดจากความเป็นพระ และข้อสุดท้าย พระทั้งหมดถูกจับสึก ถอดยศ ปลดตำแหน่ง มหาเถรสมาคมรับทราบถึงการขาดจากความเป็นพระ หมดยศ หมดตำแหน่งแล้ว

ประเด็นต่อมา พระถ้ากระทำผิดเรื่องลักทรัพย์ เบียดบัง ยักยอกเรื่องเงิน เป็นปาราชิก ขาดจากความเป็นพระแล้ว จะเปล่งวาจาลาสิกขาหรือไม่ ไม่สำคัญ แค่เอาทรัพย์ไปเกิน 300 บาทก็ขาดจากความเป็นพระ และข้อสุดท้าย พระทั้งหมดถูกจับสึก ถอดยศ ปลดตำแหน่ง มหาเถรสมาคมรับทราบถึงการขาดจากความเป็นพระ หมดยศ หมดตำแหน่งแล้ว