ตั้งศพสวดวัดเดียวกัน 3 อาสาดับเพลิง เสียชีวิตเหตุไฟไหม้บ้านถล่ม ครอบครัวยากทำใจ

จากกรณีเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2564 เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคาร 3 ชั้น ที่หมู่บ้านกฤษดานคร 31 และพังถล่มลงมาระหว่างที่มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ภายใน จนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ราย โดยเป็นกู้ภัย 4 ราย และเลขาเจ้าของบ้าน 1 ราย

ความคืบหน้าวันที่ 5 เม.ย. 2564 ที่วัดศาลาแดง เขตบางแค กรุงเทพฯ ได้มีพิธีสวดอภิธรรมศพอาสากู้ภัยที่เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้อาคารถล่ม 3 ราย ซึ่งเป็นญาติกัน ประกอบด้วยนายสมัญญา นิลธง หรือ สายชล อายุ 48 ปี, นายอรรถพล ท้วมทอง หรือ ป๊อป อายุ 26 ปี, นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด หรือ โอ อายุ 38 ปี

โดยพ่อของนายสมัญญา เผยว่า ลูกชายเป็นอาสาสมัครดับเพลิงมานานกว่า 20 ปี เกิดเหตุไฟไหม้ที่ไหนก็จะไปทุกที่ เขามีลูกชายหนึ่งคนเวลาเกิดเหตุเพลิงไหม้ก็จะไปด้วยกัน ลูกชายจะไปช่วยคุมเครื่อง ส่วนสายชลจะลากสายดับเพลิง ตนทราบข่าวว่าลูกชายติดอยู่ในซากอาคารน้ำตามันก็ไหลออกมา เสียใจมากจนพูดอะไรไม่ออก มันเศร้าสลดมาก ไม่ร้องไห้แต่น้ำตาไหลตลอด เพราะรู้สึกสูญเสียลูกชายไป เขารักงานดับเพลิงมาก เมื่อแจ้งเหตุว่าเกิดเพลิงไหม้ที่ไหนก็จะรีบไปทันทีไม่ว่าใกล้หรือไกล 

ด้านแม่นายสมัญญา กล่าวว่า แม่ทราบข่าวพร้อมกับพ่อ รู้สึกเสียใจที่เขาจากไปกะทันหัน ก่อนเกิดเหตุไม่เคยได้พูดคุยอะไรกับลูกชายเพราะอยู่คนละบ้านกัน พอทราบข่าวร้ายรู้สึกช็อก ทีแรกไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง คิดว่าลูกชายไม่น่าจะเป็นอะไร เห็นสภาพศพของลูกชายรู้สึกสงสาร ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยเล่าเรื่องการทำงานให้ฟังแต่รู้ว่าลูกชายรักงานดับเพลิงมาก เกิดเหตุที่ไหนก็จะไปช่วยเขาตลอด เหตุครั้งนี้นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่

ขณะที่นายอุเทน  เปลี่ยนกลัด พ่อของนายสุทัศน์  กล่าวว่า ใจหาย รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันสลดใจมากทำใจยาก ที่ผ่านมาเวลาเกิดเหตุลูกชายเอาตัวรอดได้ แต่เหตุครั้งนี้เขาไม่สามารถเอาตัวรอดได้ เมื่อได้รับแจ้งเหตุเขาจะรีบไปทันที นอกจากโอที่เสียชีวิตแล้วตนยังมีลูกชายอีกคน (นายสุรศักดิ์ เปลี่ยนกลัด) ซึ่งไปช่วยดับเพลิงในวันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บนอนรักษาตัวอยู่ รพ. โอเคยเล่าว่าชอบงานดับเพลิง ตนก็ขัดไม่ได้ ได้แต่ส่งเสริมการทำงานของเขา  คอยเตือนด้วยความเป็นห่วง แต่ลูกชายไม่ค่อยฟัง ตนคิดว่าสักวันต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น พ่อภูมิใจในตัวลูกชายระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่สูญเสียไปมันไม่คุ้ม

ขณะที่นางลัดดา  ยังปรางค์ แม่ของนายสุทัศน์  หรือ โอ อาสากู้ภัยที่เสียชีวิต บอกว่า คืนก่อนเกิดเหตุประมาณตี 1 หลานซึ่งเป็นลูกของโอร้องไห้หนักมาก ก็เอะใจว่าทำไมถึงร้องไห้ไม่หยุด หลังจากทราบลูกชายเสียชีวิตก็คิดว่านี่อาจเป็นลางสังหรณ์หรือไม่ หลังจากนี้คงช่วยกันดูแลหลาน วัย 1 เดือน ต่อไป แม่ได้คุยกับร่างไร้วิญญาณของลูกชายบอกเขาขอให้ไปสบาย ไปสู่สุคติ ลูกสบายแล้วไม่ต้องมาดิ้นรนอะไรอีกเพราะที่ผ่านมาชีวิตเขาลำบากมากพอแล้ว และบอกลูกชายว่า ไม่ต้องห่วงหลานเดี๋ยวจะช่วยเลี้ยงเอง

ขณะที่นางอุบล  สังข์เอี่ยม แม่ของอรรถพล กล่าวว่า “แม่เสียใจที่เขาจากไปจากเหตุการณ์แบบนี้ เขาก็เสียชีวิตในหน้าที่ของเขา แม่ก็ต้องทำใจเพราะทุกคนก็เสียใจไม่ต่างกัน แม่ได้บอกกับลูกชายว่าไม่ต้องห่วงลูกเดี๋ยวจะช่วยดูแลให้ ครั้งสุดท้ายก่อนที่ลูกชายจะไปปฎิบัติหน้าที่ดับเพลิงดังกล่าว เขาได้อาบน้ำให้ลูกสาวแล้วก็ออกไปเข้าเวรกลับมาตอนเที่ยงคืน จากนั้นก็ได้รับแจ้งเหตุว่าเกิดไฟไหม้ที่หมู่บ้านกฤษดานคร 31 ลูกชายจึงรีบออกไปช่วยและมาเกิดเหตุร้ายขึ้น เชื่อว่าลูกชายได้อาบน้ำทำให้กับลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะเสียชีวิต”