สังคม

เปิดแผนกระจายวัคซีนโควิด 'ซิโนแวค' ล็อตแรก ให้ 10 จังหวัด

โดย passamon_a

12 ก.พ. 2564

255 views

วันที่ 11 ก.พ. ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ประธานอนุกรรมการบริหารจัดการโรคติดต่อแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวประเด็นการบริหารจัดการวัคซีนโควิด -19


ซึ่งมีความชัดเจนแล้วว่า ตอนนี้ไทยจัดหาวัคซีนไว้ 2 ชนิดคือ วัคซีนชนิด Viral vector จากแอสตราเซเนกา และวัคซีนชนิดเชื้อตาย จากซิโนแวค ซึ่งถือว่าเป็นวัคซีนแบบที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้ดี โดยแผนบริหารจัดการวัคซีนของไทยแบ่งเป็น 2 ระยะ 


ในระยะที่ 1 เป็นการฉีดวัคซีนในช่วงที่มีวัคซีนจำกัด เพื่อลดความรุนแรงของอาการป่วย และการเสียชีวิตโดยในระยะนี้จะเน้นกลุ่มเป้าหมายบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทั้งภาครัฐและเอกชน


กลุ่มบุคคลที่มีโรคประจำตัว โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็งทุกชนิด โรคเบาหวาน และโรคอ้วน กลุ่มประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย


ส่วนระยะที่ 2 เมื่อมีวัคซีนมากขึ้นและเพียงพอ จะกระจายให้ครอบคลุมประชาชนทุกคนในประเทศ เพื่อการรักษาสภาพเศรษฐกิจของประเทศ


นายแพทย์โสภณ เมฆธน ระบุถึงการกระจายวัคซีนโควิด-19 ซิโนแวค จากประเทศจีนจำนวน 2 แสนโดสแรก ที่จะได้รับในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะกระจายไปยังพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร พื้นที่ 6 เขตฝั่งตะวันตก ของกรุงเทพมหานคร และจังหวัดตาก ซึ่งเป็นการให้วัคซีนในทุกกลุ่มในพื้นที่ ไม่เพียงแต่เฉพาะกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น เบื้องต้นจะเป็นการฉีดวัคซีนในสถานพยาบาล และเป็นการฉีดให้กับกลุ่มที่สมัครใจรับวัคซีน


ขณะที่ นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบ ถึงวัคซีนโควิด-19 ว่า การพิจารณาว่าพื้นที่ไหนจะได้รับวัคซีน จะพิจารณาจากข้อมูลแต่ละพื้นที่ในการแพร่ระบาดที่ผ่านมา และข้อมูลปัจจุบัน โดยการจัดลำดับตามลำดับพื้นที่และความสำคัญของการระบาด โดยจะเริ่มจากจังหวัดสมุทรสาคร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล


รวมถึงพื้นที่จังหวัดที่ในช่วงเดือนมกราคม ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด เช่น ระยอง ชลบุรี จันทบุรี ตราด รวมถึงจังหวัดตาก โดยเฉพาะอำเภอแม่สอด ที่ตอนนี้พบว่ามีสถานการณ์การแพร่ระบาดที่น่าเป็นห่วง


โดยทางคณะกรรมการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ได้ทำแผนเสนอการกระจายวัคซีนโควิด-19 จำนวน 2 ล้านโดส จากซิโนแวค ซึ่งนำเข้าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม กระจายให้ 10 จังหวัด ดังนี้


พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ สมุทรสาคร จำนวนวัคซีนที่จัดสรร 820,000 โดส โดยจัดสรรให้บุคลากรทางการแพทย์ 8,000 คน เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 6,000 คน ผู้ที่มีโรคประจำตัว 36,000 คน ผู้ที่สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 150,000 คน และประชาชนทั่วไป รวมแรงงาน 210,000 คน


พื้นที่ควบคุมสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 64 แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร จำนวน 800,000 โดส จะจัดสรรให้กลุ่มเป้าหมาย 40,000 คน


- นนทบุรี จำนวน 26,000 โดส จัดสรรให้กลุ่มเป้าหมาย 13,000 คน

- จังหวัดปทุมธานี จำนวน 26,000 โดส จัดสรรให้กับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ 13,000 คน

- จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 28,000โดส จัดสรรให้กับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ 14,000 คน

- จังหวัดระยอง จำนวน 18,000 โดส จัดสรรให้กับกลุ่มเป้าหมาย 9,000 คน

- จังหวัดชลบุรี จำนวน 28,000 โดส จัดสรรให้กับกลุ่มเป้าหมาย 14,000 คน

- จังหวัดจันทบุรี จำนวน 18,000 โดส จัดสรรให้กับกลุ่มเป้าหมาย 6,000 คน

- จังหวัดตราด จำนวน 12,000 โดส จัดสรรให้กับกลุ่มเป้าหมาย 6,000 คน


และพื้นที่ชายแดนที่พบการระบาด

-จังหวัดตาก จำนวน 160,000 โดส จัดสรรให้กับกลุ่มเป้าหมาย 80,000 คน


ทั้งนี้ การจัดสรรวัคซีนอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น ๆ โดยมีการสำรองวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับการควบคุมการแพร่ระบาดจำนวน 66,000 โดสไว้ด้วย


ขณะที่ผลสำรวจทัศนคติความเห็นของประชาชน หรือ ddc poll โดยมีการสำรวจทุก 2 สัปดาห์ ผลการสำรวจล่าสุด จำนวนมากกว่า 2,800 คน พบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 70 เห็นว่าบุคลากรทางการแพทย์เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ควรได้รับวัคซีนก่อนลำดับแรก  และร้อยละ 35 ประชาชนคิดว่าทุกคนควรได้รับวัคซีน


ส่วนที่เหลือคือกลุ่มคนอื่น เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มโรคเรื้อรัง เด็กหญิง ตั้งครรภ์ ซึ่งในทางวิชาการเด็กและหญิงตั้งครรภ์ยังไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายในการรับวัคซีนโควิด ซึ่งการรับวัคซีนขณะนี้ เป็นการเป็นวัคซีนที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

คุณอาจสนใจ

Related News