สถานการณ์ในเมียนมายังน่าเป็นห่วง หลังประท้วงต่อเนื่องวันที่ 2 ใหญ่สุดในรอบ 14 ปี

ชาวเมียนมา จำนวนหลายหมื่นคนซึ่งประกอบไปด้วย สมาชิกจากสหภาพแรงงาน ไปจนถึงนักศึกษา ยังคงออกมาชุมนุม เพื่อคัดค้านการทำรัฐประหารของกองทัพ ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในนครย่างกุ้ง แม้ว่ารัฐบาลเมียนมา ได้สั่งตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ รวมถึงสั่งระงับการใช้งานสื่อโซเชียลมีเดีย ทั้ง เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม, และทวิตเตอร์ เพื่อป้องกันประชาชนไม่ให้ออกมาชุมนุม 

อย่างไรก็ตาม ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ยังคงใช้การส่งข้อความสั้น ๆ ทางโทรศัพท์มือถือในการสื่อสารระหว่างกัน และรายงานในวันนี้ ระบุว่าสัญญาณอินเทอร์เน็ต บางส่วนเริ่มกลับมาใช้งานได้แล้ว โดยข้อมูลจาก เน็ตบล็อกซ์ (NetBlocks) ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบการใช้งานอินเทอร์เน็ตระบุว่า การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในเมียนมาเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 50 ตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถใช้งานสื่อโซเชียลมีเดียดังกล่าวได้ 

การชุมนุมที่นครย่างกุ้งในวันนี้ ถือเป็นการชุมนุมที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 14 ปี นับตั้งแต่การชุมนุมประท้วงของกลุ่มพระสงฆ์ ที่เรียกว่า การปฏิวัติชายจีวร ในปี 2007 

โดยผู้ชุมนุมพากันเดินขบวนไปตามท้องถนน ถือป้าย, ตะโกนข้อความ, และแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง ชู 3 นิ้ว เพื่อต่อต้านการทำรัฐประหาร นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนาง อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ และประธานาธิบดี วิน มินต์ ที่ถูกจับกุมตัวไปตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 

นอกจากที่นครย่างกุ้งแล้ว ยังมีการชุมนุมย่อยตามเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ อย่างเช่น ที่กรุงเนปิดอว์และเมืองมัณฑะเลย์ ขณะที่เมืองเมาะลำเลิง Mawlamine) ของรัฐมอญ มีรายงานว่า มีการยิงกันเกิดขึ้น แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ