ต่างประเทศ

'พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3' ขึ้นครองราชย์อย่างเป็นทางการ - จัดพระราชพิธีพระบรมศพ 'ควีนเอลิซาเบธที่ 2' 19 ก.ย.นี้

โดย passamon_a

11 ก.ย. 2565

328 views

เมื่อวันที่ 10 ก.ย.65 สภาการขึ้นครองราชย์ ประกาศสถาปนาพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ ณ พระราชวังเซนต์เจมส์ กรุงลอนดอน


พิธีการดังกล่าวมีพระราชินีคามิลลา และ วิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ เข้าร่วมด้วย รวมไปถึง สภาการขึ้นครองราชย์ (Accession Council) ซึ่งประกอบไปด้วย องคมนตรี, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอาวุโส ทั้งในอดีตและปัจจุบัน, สมาชิกสภาขุนนาง, ข้าราชการระดับสูง รวมถึงข้าหลวงใหญ่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ประจำรัฐต่าง ๆ ในเครือจักรภพ


นอกจากนี้ ยังมีบุคคลสำคัญทางการเมือง เช่น นายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์, หัวหน้าพรรคแรงงาน, อดีตนายกรัฐมนตรี สหราชอาณาจักร ทั้ง โทนี่ แบลร์, เดวิด คาเมรอน, กอร์ดอน บราวน์, เทเรซ่า เมย์ และบอริส จอห์นสัน


พระราชพิธีเริ่มต้นด้วยการประกาศการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 จากประธานของสภาการขึ้นครองราชย์ จากนั้นจึงประกาศให้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ฟิลิป อาร์เธอร์ จอร์จ พระชนมพรรษา 73 พรรษา ทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 กษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร และเครือจักรภพอย่างเป็นทางการ


ซึ่งในพิธีการดังกล่าว พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 มิได้เข้าร่วมพิธีการด้วย แต่ทรงเข้าร่วมในพิธีส่วนที่ 2 ซึ่งเป็นการกระชุมสภาองคมนตรีเป็นครั้งแรกที่ท้องพระโรงพระราชวังเซนต์เจมส์ ในพิธีการนี้ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงประกาศการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 อย่างเป็นทางการ และได้ตรัสว่าจะอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนจักรแห่งสกอตแลนด์ ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18


นอกจากนี้ พระองค์ตรัสว่า เป็นหน้าที่อันโทมนัสยิ่ง ที่ต้องประกาศเรื่องการเสด็จสวรรคตของพระราชมารดา จากนั้นทรงกล่าวสดุดีและเชิดชูพระเกียรติ ของพระราชมารดาผู้ล่วงลับ พร้อมตรัสอีกว่า พระองค์ทรงรับรู้ถึงภารกิจที่รออยู่ข้างหน้าเป็นอย่างดี หลังจากนั้น พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงสาบานตนและลงพระนามในพระราชโองการ โดยอันเป็นการเสร็จสิ้นพระราชพิธี


ในเวลาต่อมา มีการประโคมเสียงแตรสัญญาณ ที่ระเบียงของพระราชวังเซนต์เจมส์ จากนั้นเจ้าพนักงานได้อ่านคำประกาศ การขึ้นครองราชย์ต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้งแรก พร้อมป่าวร้องขึ้นว่า "ขอพระเจ้าจงคุ้มครองพระราชา (God Save the King)" จากนั้นก็มีการบรรเลงเพลงจากวงดุริยางค์บรรเลงเพลง


ขณะเดียวกัน มีการยิงสลุตที่สวนสาธารณะไฮด์ปาร์ก หอคอยแห่งลอนดอน และจากเรือรบหลวงต่าง ๆ เพื่อเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ ส่วนธงชาติของสหราชอาณาจักร ซึ่งถูกลดลงครึ่งเสา เพื่อไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะถูกเชิญขึ้นสู่ยอดเสา และคงไว้เป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง ก่อนจะลดลงครึ่งเสาอีกครั้ง หลังจากนั้นจะมีการประกาศการขึ้นครองราชย์อย่างเป็นทางการในดินแดนทั้งหมดของสหราอาณาจักร ซึ่งจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 11 กันยายน 65


ขณะที่รัฐสภา นายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ ของสหราอาณาจักร, นายลินด์เซย์ ฮอยล์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดของสหราชอาณาจักร เข้าแถวเพื่อทำพิธีกล่าวสาบานตนและถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะจงรักภักดิ์ดีต่อพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3


ส่วนที่แคนาดา ก็จัดพิธีสถาปนาพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่ และประมุขแห่งรัฐ โดยนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี เดินทางไปเข้าพบนางแมรี ไซมอน ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ที่ทำเนียบผู้สำเร็จราชการ ในกรุงออตตาวา เพื่อลงนามในคำประกาศรับรอง พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เป็นพระประมุขพระองค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักร และเครือจักรภพ


จากนั้นเจ้าพนักงานออกมาประกาศการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์พระองค์ใหม่ต่อหน้าสาธารณชน ทั้งภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศส พร้อมกล่าวสดุดี ทรงพระเจริญ แล้วมีการยิงสลุตทั้งหมด 21 นัด และวงดุริยางค์ของกองทัพ บรรเลงบทเพลง God Save the King เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี


ทั้งนี้ สำนักพระราชวังบักกิงแฮม ยืนยันแล้วว่า พระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 19 กันยายนนี้ ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ (Westminster Abbey) กรุงลอนดอน


ทั้งนี้ ก่อนที่จะถึงพระราชพิธิพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 หีบพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะถูกเชิญจากปราสาทบัลมอรัล มายังพระราชวังบักกิงแฮม ในกรุงลอนดอน ซึ่งพิธีแรกที่จะจัดขึ้นจะเป็นรัฐพิธี โดยมีรัฐบาลอังกฤษเป็นผู้ดูแลจัดการ


ซึ่งพระราชพิธีอัญเชิญหีบพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะเกิดขึ้นในวันอังคารนี้ โดยสำนักพระราชวังบักกิงแฮมยืนยันว่า หีบพระบรมศพจะถูกอัญเชิญออกจากปราสาทบัลมอรัล ไปยังท่าอากาศยานเอดินบะระ และขึ้นเครื่องบินยังมายังกรุงลอนดอน โดยมีเจ้าหญิงแอนน์ พระราชธิดา เสด็จมาด้วย


หลังจากนั้น จะมีการเคลื่อนหีบพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 อย่างช้า ๆ จากพระราชบักกิงแฮม มายังเวสต์มินเตอร์ฮอลล์ ซึ่งเป็นห้องโถงใหญ่ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในกลุ่มอาคารรัฐสภา ภายในพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ โดยมีทหารกองเกียรติยศและพระราชวงศ์ร่วมขบวน ส่วนประชาชนสามารถเฝ้ารอชมขบวนพระบรมศพได้ตามสองข้างทางใจกลางกรุงลอนดอน นอกจากนี้ คาดว่าจะมีการถ่ายทอดสดผ่านหน้าจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ ที่ถูกติดตั้งอยู่ตามสวนสาธารณะหลายแห่ง


จากนั้นจะเปิดให้สาธารณชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เป็นระยะเวลาทั้งหมด 4 วัน ก่อนที่จะถึงพระราชพิธีพระบรมศพ


ส่วนพระราชพิธีพระบรมศพ ในวันที่ 19 กันยายนนี้ จะถูกจัดขึ้นที่มหาวิหารเวสต์มินเตอร์ กลางกรุงลอนดอน ซึ่งสถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ประกอบพิธีราชาภิเษกของอดีตกษัตริย์ และราชินีของสหราชอาณาจักรหลายพระองค์ โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ก็ทรงมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่มหาวิหารแห่งนี้ในปี 2496 และทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟิลิปที่นี่ด้วยเช่นกัน เมื่อปี 2490 ด้วย


ทั้งนี้ ตามรายงานระบุว่า นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ที่มีการจัดพระราชพิธีพระบรมศพของกษัตริย์ในมหาวิหารเวสต์มินเตอร์ เว้นแต่พระราชพิธีพระศพของควีนมัมซึ่งจัดขึ้นเมื่อปี 2002


ขณะที่ผู้นำทั่วโลกหลายคนก็ประกาศแผนการเดินทางไปเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แล้ว เช่น ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกันกับ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ แห่งญี่ปุ่น ทรงมีแผนที่จะเสด็จพระราชดำเนินร่วมพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2


โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกับสำนักพระราชวังกำลังจัดเตรียมการเสด็จพระราชดำเนินของจักรพรรดินารุฮิโตะ ซึ่งจะถือว่าเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศครั้งแรกของพระองค์ ตั้งแต่ทรงขึ้นครองราชย์



ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/8nPz6d0afR0

คุณอาจสนใจ

Related News