เมียนมาเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 5 ปี หลังการรัฐประหาร

ชาวเมียนมาออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งอย่างเป็นทางการครั้งแรก นับตั้งแต่ที่กองทัพทำรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน เมื่อ 5 ปีก่อน ท่ามกลางการควบคุมที่เข้มงวด

วันนี้ (28 ธ.ค.) ชาวเมียนมาที่มีสิทธิเลือกตั้งทยอยออกไปลงคะแนนกันตั้งแต่เช้าตรู่ ตามคูหาเลือกตั้งที่ถูกจัดตั้งขึ้นตามโรงเรียน อาคารที่ทำการของรัฐ และศาสนสถาน ในเมืองต่างๆ เช่น นครย่างกุ้ง, กรุงเนปิดอว์ และอีกหลายเมือง

ที่คูหาเลือกตั้งแห่งหนึ่งในย่านใจกลางนครย่างกุ้ง บริเวณใกล้กับเจดีย์ซูเล จำนวนผู้มาลงคะแนนในช่วงเริ่มเปิดหีบนั้นค่อนข้างบางตา โดยผู้สื่อข่าวระบุว่า จำนวนนักข่าวและเจ้าหน้าที่คูหามีมากกว่าผู้มาลงคะแนนเสียอีก แต่กระนั้นจำนวนผู้มาใช้สิทธิก็ทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ประชาชนรายหนึ่งที่อพยพออกมาจากหมู่บ้านในเมืองมัณฑะเลย์เพื่อหนีการสู้รบที่ยังคงยืดเยื้อ กล่าวว่า เธอรู้ว่าเธอต้องออกมาเลือกตั้ง เพราะมันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เธอมีความรู้สึกว่าต้องเลือกตั้งเพื่อให้เกิดสันติภาพและจะได้มีโอกาสกลับไปยังหมู่บ้านของตัวเองอีกครั้งหลังจากนี้

ส่วนที่กรุงเนปิดอว์ มีผู้คนเข้าแถวรอลงคะแนนยาวเหยียดตั้งแต่เริ่มเปิดคูหา เนื่องจากเมืองนี้เป็นศูนย์กลางการบริหารราชการ และมีประชากรส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ

การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการลงคะแนนหลายรอบ และไม่ได้จัดขึ้นทั่วประเทศ โดยจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันนี้ ใน 102 เมือง จากนั้นในวันที่ 11 มกราคมเป็นการเลือกตั้งใน 100 เมือง และวันที่ 25 มกราคม เป็นการเลือกตั้งใน 63 เมือง รวมทั้งหมด 265 เมือง จากทั้งหมด 330 เมือง ซึ่งพลเอกอาวุโส มิน อ่องหล่าย ยอมรับว่าไม่สามารถจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศได้

เหล่านักรณรงค์ นักการทูตตะวันตก และหัวหน้าฝ่ายสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ต่างออกมาประณามการเลือกตั้งแบบแบ่งระยะเวลานี้ โดยระบุว่าเป็นการเลือกตั้งที่เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มพันธมิตรของกองทัพ และมีการปราบปรามผู้เห็นต่างอย่างรุนแรง

หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) ซึ่งสนับสนุนกองทัพ จะกลายเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดในสภา ซึ่งเหล่านักวิจารณ์มองว่าเป็นเพียงการเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่ของการปกครองภายใต้กฎอัยการศึกเท่านั้น

การเลือกครั้งในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่การรัฐประหาร โดยมีเพียง 6 พรรคการเมืองที่แข่งขันกันในระดับชาติ และ 51 พรรคการเมืองที่แข่งขันกันในระดับภูมิภาค ทั้งนี้ พรรคการเมืองหลายพรรคที่ลงสมัครรับเลือกตั้งใน 2 ครั้งที่ผ่านมาได้ถูกยุบไปแล้ว และกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารก็ปฏิเสธที่จะเข้าร่วม

ขณะเดียวกัน รายงานระบุว่าบรรยากาศก่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีภาพการรณรงค์หาเสียงอย่างคึกคักเหมือนครั้งที่ผ่านมา และรัฐบาลทหารได้เปิดฉากโจมตีอย่างรุนแรงก่อนการเลือกตั้งเพื่อชิงพื้นที่คืน

จนถึงตอนนี้ รัฐบาลทหารเมียนมายังไม่ประกาศวันนับคะแนนและผลการเลือกตั้ง ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้งที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพกล่าวว่า เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์กว่า 50,000 เครื่องของพวกเขาจะช่วยเร่งการนับคะแนนให้เร็วขึ้น