จีนยืนหยัดนโยบายโควิดเป็นศูนย์เป็นสิ่งจำเป็น

ตอนนี้เจ้าหน้าที่ในกรุงปักกิ่ง ทุ่มเทความพยายามอย่างหนักไม่ให้เมืองหลวงของประเทศต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกับเซี่ยงไฮ้ ที่ยังต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ในวันนี้ประชาชนในกรุงปักกิ่ง ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะที่เขตเฉาหยาง ต้องเข้ารับการตรวจโควิดประจำวัน ขณะที่ระบบขนส่งสาธารณะ 15 เปอร์เซนต์ ปิดให้บริการ โดยตอนนี้รถประจำทาง 158 เส้นทาง และรถไฟใต้ดินกว่า 60 สถานีในปักกิ่งหยุดให้บริการ


ขณะที่นครเซี่ยงไฮ้ เมื่อวานนี้รองนายกเทศมนตรีนครเซี่ยงไฮ้แถลงว่า สถานการณ์การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในเซี่ยงไฮ้ กำลังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการแพร่ระบาดอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ



ชาวเซี่ยงไฮ้จำนวน 25 ล้านคน ยังอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งตอนนี้เข้าสู่เดือนที่สองแล้วที่เซี่ยงไฮ้ดำเนินการตามแนวทางนโยบาย "โควิดเป็นศูนย์" แต่ก็ขอเตือนประชาชนให้ยังคงระมัดระวัง แม้เราจะสามารถจำกัดการแพร่ระบาดในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะมีแพร่ระบาดอีก และเซี่ยงไฮ้ก็จะยังคงยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์



ปัจจุบันนี้ชาวเซี่ยงไฮ้ 2.3 ล้านคน ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง ยังต้องถูกจำกัดการเดินทาง ขณะที่ประชาชนอีก 16.67 ล้านคน อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่ำ สามารถออกจากบ้านและเดินทางไปยังชุมชนอื่นได้ฃ



แม้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในเซี่ยงไฮ้จะลดลง แต่ล่าสุดวันนี้เซี่ยงไฮ้ประกาศเลื่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยซึ่งเดิมจะมีขึ้นในมิถุนายนให้เลื่อนไปเป็นเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้ทางการจีนยังได้สร้างสถานีตรวจโควิด PCR ถาวรราว 9 พันจุดทั่วเซี่ยงไฮ้ นั่นหมายความว่า จะมีการตรวจโควิดให้กับประชาชนแบบถาวร โดยเฉพาะในเขตชุมชน นิคมอุตสาหกรรม สำนักงาน ทางเข้ารถไฟและรถไฟใต้ดิน โดยการตรวจโควิดจะใช้เวลาประมาณ 15 นาที และตอนนี้สถานีตรวจ PCR ราว 5 พันจุดสามารถเริ่มดำเนินการได้แล้ว



ขณะที่ทางการจีนยืนยันว่า นโยบายโควิดเป็นศูนย์เป็นสิ่งจำเป็นและจีนให้ความสำคัญกับความปลอดภัยก่อน แม้ว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ แต่จีนก็เชื่อว่า จะสามารถเอาชนะและแก้ปัญหานี้ได้ จีนยังได้ย้ำว่า จะหามาตรการตอบโต้ ผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนด้วย