สงคราม ยูเครน-รัสเซีย เข้าสู่เดือนที่ 3 ล่าสุดมีการโจมตีทางอากาศถล่มโรงงานเหล็กในเมืองมาริอูโปล

ที่ปรึกษาของประธานาธิบดียูเครน แถลงทางโทรทัศน์ทั่วประเทศ ว่า กองกำลังรัสเซีย ได้เริ่มปฎิบัติการโจมตีทางอากาศ ถล่มโรงงานเหล็ก อาซอฟสตาลในเมืองมาริอูโปล เมืองท่าสำคัญทางตอนใต้ของยูเครน อีกระลอก เพื่อกดดัดให้กองกำลังยูเครนที่ยังหลงเหลือหลบซ่อนอยู่ภายในโรงงานยอมมอบตัว ซึ่งถือเป็นที่มั่นสุดท้าย ที่รัสเซียจะสามารถควบคุมเมืองมาริอูโปลได้ทั้งหมด

เจ้าหน้าที่ยูเครน คาดการณ์ว่า น่าจะมีพลเรือนราว 1,000 คนที่เข้าไปหลบภัย ร่วมกับทหารยูเครน ในโรงงานเหล็กดังกล่าวด้วย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว มีขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้เปลี่ยนยุทธวิธีที่สั่งให้เป็นปิดล้อม โรงงานเหล็กอย่างแน่นหนา ชนิดที่ไม่ให้แมลงวันบินเล็ดรอดสายตาไปเมื่อ 3 วันก่อน

รายงานระบุว่า มีชาวยูเครน ราว 300 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีเด็ก 90 คน ถูกบังคับให้เดินทางออกจากเมืองมาริอูโปล ไปยัง วลาดิวอซสต็อก ของ รัสเซีย เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเมือง วลาดิวอซสต็อก แห่งนี้ อยู่ห่างจากเมืองมาริอูโปล กว่า 9 พันกิโลเมตร เลยทีเดียว




ขณะเดียวกันที่เมือง โอเดสซา ทางตอนใต้ของยูเครน มีรายงาน กองทัพรัสเซีย ยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 2 ลูกถล่มอาคารที่พักอาศัย ได้รับความเสียหายหนัก ทำให้ผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน ในจำนวนนี้มีเด็กทารก วัย 3 เดือน รวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บอีกเกือบ 20 คน นักดับเพลิงเร่งอพยพพลเรือนออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย ท่ามกลางซากความเสียหายที่เกิดขึ้น

เช่นเดียวกับที่เมืองคาร์คีฟ ทางตะวันออกของยูเครน กองทัพรัสเซียได้ทิ้งระเบิดโจมตีอาคารที่พักอาศัยอย่างหนักเช่นกัน ผู้ว่าการเมืองคาร์คีฟ เผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา รัสเซียระดมทิ้งระเบิด กว่า 50 ลูก ทำให้อาคารได้รับความเสียหาย เพลิงลุกไหม้ มีรายงานผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บอีก 7 คน

อย่างไรก็ตาม รัสเซียออกมาปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้โจมตี โดยยืนยันว่า เป้าหมายของกองกำลังรัสเซียไม่ใช่พลเรือน




ท่ามกลางปฎิบัติการโจมตีอย่างหนักหน่วงในยูเครนอยู่นั้น ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย พร้อมด้วย นายกรัฐมนตรีดมิทรี เมดเวเดฟ และภริยา ได้ใช้เวลาเข้าร่วมประกอบพิธีมิสซา ในเวลาเที่ยงคืน เนื่องในวันอีสเตอร์ของชาวคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ ที่วิหารเซเวียร์ กลางกรุงมอสโก ขณะที่ พระสังฆราชคิริลล์ ผู้ประกอบพิธีมิสซา ทรงแสดงความหวังว่าความขัดแย้งระหว่างยูเครน และ รัสเซีย จะยุติได้ในเร็ววัน แต่ไม่มีการประณามการรัสเซียในการเปิดปฎิบัติการทหารรุกรานยูเครนแต่อย่างใด สำหรับวันอีสเตอร์ของชาวออร์โธดอกซ์ จะช้ากว่าชาวคริสต์นิกายคาทอลิกและโปแตสแตนท์ 1 สัปดาห์