'ไมโครซอฟท์' เผยมีอุปกรณ์เฉียด 8.5 ล้านเครื่อง เจอปัญหา 'คราวด์สไตร์ค' กระทบเศรษฐกิจ-สังคม เป็นวงกว้าง

'ไมโครซอฟท์' ได้อัพเดตสถานการณ์ หลังจากเกิดเหตุขัดข้องอันเนื่องมาจากการอัพเดตซอฟต์แวร์ของบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่าง 'คราวด์สไตร์ค' (CrowdStrike) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า อุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบทั่วโลกนั้น มีเกือบ 8.5 ล้านเครื่อง

เดวิด เวสตัน รองประธานไมโครซอฟท์ ระบุว่า ผลกระทบดังกล่าวถือว่าน้อยกว่า 1% ของเครื่องที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการวินโดวส์ทั้งหมด แม้ว่าเปอร์เซ็นต์จะน้อย แต่มันส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ และสังคม ในวงกว้าง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า องค์กรต่าง ๆ ในภาคส่วนที่มีความสำคัญมากมาย ใช้บริการของ คราวด์สไตร์ค (CrowdStrike)

ทั้งนี้ ไมโครซอฟต์สามารถระบุจำนวนอุปกรณ์ที่ถูกปิดใช้งานได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากมีการนับ และส่งข้อมูลทางไกลที่มีประสิทธิภาพ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต พร้อมกับเน้นย้ำความสำคัญของการที่บริษัทต่าง ๆ อย่างเช่น คราวด์สไตร์ค (CrowdStrike) จำเป็นจะต้องตรวจสอบ และควบคุมคุณภาพการอัพเดตต่าง ๆ ก่อนที่จะส่งมันออกไป

เดวิด เวสตัน กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นยังช่วยเตือนใจว่า มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคนในระบบนิเวศของเทคโนโลยี ที่จะต้องจัดลำดับความสำคัญของการปฏิบัติงาน ด้วยการใช้งานอย่างปลอดภัย และต้องมีการกู้คืนระบบโดยใช้กลไกที่มีอยู่

ตัวเลขผู้ได้รับผลกระทบที่ไมโครซอฟท์เผยแพร่ออกมา อาจทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ทางไซเบอร์ ที่ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา แซงหน้าการแฮก และการล่มของระบบก่อนหน้านี้ อาทิ การโจมตีของไวรัสวอนนาคราย  (WannaCry) ในปี 2017 ที่ส่งผลกระทบกับคอมพิวเตอร์ราว 3 แสนเครื่อง ใน 150 ประเทศ

-------------