'วิกฤตอิสราเอล-ฮามาส' ฉุดคะแนนความนิยม 'โจ ไบเดน' หล่นฮวบ

คะแนนนิยมของ โจ ไบเดน แตะระดับต่ำสุด นับตั้งแต่เป็นประธานาธิบดี โดยผู้มีสิทธิออกเสียงชาวสหรัฐฯ  มากกว่าครึ่ง ไม่พอใจกับแนวทางที่เขารับมือวิกฤติความขัดแย้งระหว่างฮามาสกับอิสราเอล

สำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ เปิดเผยผลการสำรวจพบว่า มีผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งชาวสหรัฐฯ แค่ 40% ที่พอใจกับการทำหน้าที่ของ ไบเดน ในตำแหน่งประธานาธิบดี โดยมีถึง 57% ที่ไม่พอใจผลงานของประธานาธิบดีวัย 80 ปี ผู้นี้

นอกจากนั้น ยังพบว่า แม้คะแนนนิยมในภาพรวมของ ไบเดน ในเดือนตุลาคม จะลดลงมาจากเดือนกันยายนแค่ 1% แต่พบเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ในบรรดาผู้สนับสนุนอายุระหว่าง 18 ถึง 34 ปี ซึ่งความนิยมในตัว ไบเดน ลดลงจากระดับ 46% เหลือเพียง 31%

ในอีกหัวข้อที่ ไบเดน ได้รับความนิยมในระดับต่ำ คือ ด้านนโยบายต่างประเทศ โดยมีผู้มีสิทธิชาวอเมริกันเพียง 33% ที่พอใจนโยบายต่างประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงจากระดับ 41% ของเดือนกันยายน

ส่วนเรื่อง ความขัดแย้งระหว่างฮามาสกับอิสราเอล ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในเดือนตุลาคม มีเพียง 34% ที่เห็นด้วยกับแนวทางรับมือกับวิกฤตินี้ของไบเดน  ขณะที่ไม่เห็นด้วยมีมากถึง 56%

ทั้งนี้ หากจำแนกกลุ่มอายุแล้ว พบว่า ประชาชนอายุ 18-34 ปี เป็นกลุ่มที่ไม่พอใจประธานาธิบดีมากที่สุดในประเด็นดังกล่าว โดยมีถึง 70% ที่บอกว่า ไบเดน ทำหน้าที่ได้อย่างย่ำแย่
-------------

ทั้งนี้ สหรัฐฯ เหลือเวลาเพียงอีก 1 ปี เท่านั้น ก็จะเข้าสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบใหม่ ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2024

โดย ไบเดน กำลังตกเป็นฝ่ายตามหลังอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งถูกมองอย่างกว้างขวางว่า จะเป็นคู่แข่งคนสำคัญของเขาในศึกเลือกตั้งที่กำลังมาถึง

โดยจากผลสำรวจของเอ็นบีซีนิวส์ พบว่า ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 46% จะเลือกสนับสนุนทรัมป์ ส่วน 44% หนุนหลังไบเดน

ขณะที่ ผลสำรวจของนิวยอร์กไทม์ส/วิทยาลัยเซียนา เมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่า ไบเดน มีคะแนนตามหลัง ทรัมป์ ในรัฐสมรภูมิ 5 จาก 6 รัฐ

-------------