ฝรั่งเศส-อังกฤษ-สหรัฐฯ อ่วม! ติดโควิดทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง

สถานการณ์การระบาดของโควิดในฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐฯ วิกฤตต่อเนื่องหลังเกิดการระบาดใหญ่ของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ล่าสุดฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อทะลุ 2 แสนคนมากที่สุดเป็นสถิติใหม่ในวันเดียว

โดยนายโอลิวิเยร์ เวรอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศส เปิดเผยว่าฝรั่งเศส พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ทั่วประเทศถึง 208,000 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง นับเป็นสถิติรายวันสูงสุดของทั้งฝรั่งเศสและทวีปยุโรป ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมของฝรั่งเศสอยู่ที่  9,534,357 คน

ก่อนหน้านั้นเมื่อวันอังคาร ฝรั่งเศสก็ทำสถิติใหม่ไปแล้วครั้งหนึ่งที่  180,000 ราย ก่อนจะมาทำสถิติซ้ำอีกครั้ง

นายเวรอง ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อดังกล่าวหมายความว่า จะมีชาวฝรั่งเศส 2 คน มีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวกในทุกๆ วินาที ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ฝรั่งเศสไม่เคยประสบมาก่อน  

ขณะเดียวกันที่อังกฤษ สำนักงานสาธารณสุขอังกฤษเปิดเผยว่าผู้ติดเชื้อรายวันเมื่อวานนี้พุ่งขึ้นเป็น 183,037 คนเช่นกันเป็นการทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 12,559,926 คน

โดยตัวเลขนี้เป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อเฉพาะที่เกาะอังกฤษเท่านั้น ไม่รวม นอร์ธเทิร์น ไอร์แลนด์ และสก็อตแลนด์  ซึ่งถือเป็นยอดที่เพิ่มขึ้นถึง 45% ภายในสัปดาห์เดียว

กระนั้น ทางด้านนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ยังคงบอกให้ประชาชนสามารถฉลองปีใหม่ได้ แต่ขอให้ระวังตัวเองสูงสุด โดยเขาย้ำว่า แม้ว่าโอมิครอนจะสร้างปัญหาอย่างต่อเนื่อง กับจำนวนผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่จากข้อมูลนั้นเห็นได้ชัดว่าโอมิครอน มีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตามาก

ส่วนที่สหรัฐฯ ซึ่งเป็นอีกประเทศที่มีเกิดการระบาดของโอมิครอนครั้งใหญ่ ล่าสุดมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปสกิน ซึ่งติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อระบุว่า ในสัปดาห์ล่าสุดถึงวันที่ 27 ธันวาคมนั้น อัตราเฉลี่ยผู้ติดเชื้อใหม่อยู่ที่วันละ 237,061 คนทีเดียว เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าถึง 66%

และพบว่า มีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 1,453 คน สูงขึ้น 18% เมื่อเทียบกับสัปาดห์ก่อนหน้า

โดยรัฐที่มีพบว่ามีผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลสูงสุดที่สุด คือมิชิแกน เวอร์มอนต์ เมน และนิวดแฮมเชียร์

ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเมื่อวานนี้อยู่ที่ 240,495 คน ขณะยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 54,372,977 คน