ต่างประเทศ

ประท้วงในบังคลาเทศ ตึงเครียด! หลังประกาศเคอร์ฟิว ยังมีผู้ออกมาชุมนุม ล่าสุดเสียชีวิตแล้วกว่า 100 คน

โดย panwilai_c

20 ก.ค. 2567

133 views

สถานการณ์การณ์การเมืองในบังคลาเทศ ขณะนี้ มีความตึงเครียดอย่างมาก เกิดการปะทะอย่างหนักระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ประท้วง ล่าสุด มีผู้เสียชีวิต 105 คนและบาดเจ็บหลายพัน ขณะที่ทางการประกาศเคอร์ฟิวและตัดอินเตอร์เน็ต



สถานการณ์การประท้วงครั้งใหม่บังคลาเทศ ยังคงตึงเครียดในวันนี้ มีผู้ประท้วงออกมารวมตัวกันบนท้องถนน แม้ว่ากองทัพบังคลาเทศจะประกาศเคอร์ฟิว เพื่อควบคุมและสลายการผู้ประท้วงที่นำโดยกลุ่มนักศึกษา หลังไม่พอใจระบบโควตาการงานราชการของรัฐบาล ทั้งนี้ ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตามาแล้ว 5 วันติดต่อกัน รวมถึงขว้างระเบิดใส่ผู้ประท้วง เพื่อสลายการชุมนุม ขณะที่ผู้ประท้วงตอบโตกลับด้วยการขว้างอิฐ และจุดไฟเผายานพาหนะ อาคาร และธุรกิจร้านค้า ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตแล้ว 105 คน และบาดเจ็บนับพันคน ยังมีรายงานด้วยว่า ทางการได้สั่งตัดอินเทอร์เน็ต มาตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา



สำหรับประท้วงเริ่มขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากศาลสูงคืนสถานะระบบโควตาสำหรับงานภาครัฐ ล้มล้างคำตัดสินของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ชีค ฮาซินา เมื่อปี 2018 ที่จะยกเลิกโควต้าดังกล่าว ต่อมารัฐบาลยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว และศาลฎีกาสั่งระงับคำสั่งศาลสูง โดยกำหนดให้วันที่ 7 สิงหาคม เพื่อรับฟังคำคัดค้านของรัฐบาล



ผู้ประท้วงเรียกร้องให้รัฐหยุดจัดสรรงานราชการ 30% ให้กับครอบครัวของผู้คนที่ต่อสู้ในสงครามประกาศเอกราชจากปากีสถานเมื่อปี 2514 ทั้งนี้ แม้ว่าการประท้วงจะจุดประกายด้วยความโกรธแค้นของนักศึกษาต่อระบบโควตาที่เป็นข้อถกเถียง แต่นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจที่ยากลำบาก รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่สูง การว่างงานที่เพิ่มขึ้น และทุนสำรองระหว่างประเทศที่ลดลง กำลังจะทำให้ประเทศเข้าสู่วิกฤต



การประท้วงถือเป็นความท้าทายครั้งแรกต่อรัฐบาลของฮาซินา นับตั้งแต่เธอชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 4 ติดต่อกันในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งการเลือกตั้งถูกคว่ำบาตรโดยฝ่ายค้านหลัก อย่างไรก็ตาม เธอได้ประณามการสูญเสียชีวิตและเรียกร้องให้ผู้ประท้วงอดทนอดกลั้น จนกว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา



ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ เตือนคนไทยในกรุงธากา ของบังกลาเทศ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปบริเวณเหตุการณ์ประท้วง และพิจารณางดการเดินทางออกนอกที่พักในช่วงนี้ หลังมีการชุมนุมประท้วงทำลาย อาคารสถานที่ในที่สาธารณะ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และบาดเจ็บกว่า 1,000 คน

คุณอาจสนใจ