โฆษก KNU ยันปฏิบัติตามกม.มนุษยธรรม หลังเข้ายึดเมียวดีได้แล้ว 90%

โฆษกสหภาพกะเหรี่ยง KNU ก็แสดงท่าทีต่อการขอใช้สนามบินแม่สอดของรัฐบาลเมียนมา ยืนยันว่าทาง KNU ไม่ได้ปิดกั้นการส่งตัวเชลยศึก เพราะปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ยินดีส่งกลับหากสมัครใจ และเป็นห่วงสถานการณ์ในเมืองเมียวดี หากมีการปูพรมยึดเมือง ซึ่งภายในเมืองเมียวดี ยังเป็นปกติ และด่านพรมแดนไทยที่อำเภอแม่สอดก็ยังเปิดตามปกติ



ที่สนามบินแม่สอดตลอดทั้งวันนี้ไม่มีเครื่องบินของสายการบินเมียนมา มาลงจอด ตามที่กระทรวงการต่างประเทศแถลงว่า เมียนมาขอยกเลิกเที่ยวบินที่เหลือระหว่างวันที่ 8-9 เมษายนนี้ไปแล้ว โดยเที่ยวบินเดียวเมื่อคืนนี้ยืนยันว่าไม่มีการขนย้ายทหารหนืออาวุธ ตามที่มีรายงานข่าวว่าจะขอส่งกลับทหารและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ



ซึ่งในประเด็นนี้ นายพะโด่ซอตอนี โฆษกสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNU เปิดเผยว่า หลังจากกองกำลัง KNLA ของ KNU และกองกำลังผสม BGF และ PDF ยึดฐานพม่าได้ 3 ฐาน มีทหารพม่าที่มอบตัว กว่า 400 นาย วางอาวุธ กลายเป็นเชลยศึกที่อยู่ในการดูแลของ กองกำลัง KNLA ซึ่งปฏิบัติตามหลักกฏหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ที่ต้องดูแลเชลยศึก Prisoner of War หรือ POW และพร้อมส่งกลับโดยไม่บังคับ แต่ทราบว่ามีบางส่วนเป็นห่วงความปลอดภัยหากถูกส่งกลับไปกับกองทัพเมียนมา



โฆษก KNU ยอมรับว่า ประชาชนทุกฝ่ายเป็นห่วงความปลอดภัยด้วยว่าหลังมีการส่งเชลยศึกออกจากพื้นที่แล้ว อาจเกิดปฏิบัติการปูพรมทำลายเมืองเมียวดี



โฆษก KNU ยังเรียกร้องไปยังนานาชาติติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิด ซึ่งกองกำลังทุกชาติพันธุ์ ยังต้องร่วมมือกันในการต่อสู้เพื่อประชาชนและประชาธิปไตยจนกว่าจะถึงเป้าหมาย



สำหรับปฏิบัติการยึดฐานทหารเมียนมาของกองกำลัง 3 ฝ่าย ในฐานกองพัน 355,356,357 จะอยู่ห่างจากตัวเมืองเมียวดีประมาณ 10 กิโลเมตร โฆษก เคเอ็นยู เปิดเผยว่า สามารถยึดพื้นที่ได้แล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ ยังเหลือกองพัน 275 กองพัน 44 และตัวเมืองเมียวดี ซึ่งยังเป็นพื้นที่ปลอดภัย



สิ่งที่เงียบสงบอย่างเห็นได้ชัดคือสถานที่ราชการของเมืองเมียวดี ปิดทำการ ไม่มีเจ้าหน้าที่ภายใน หรือแม่แต่กำลังทหารและตำรวจด้านหน้า เราพบเจ้าหน้าที่ทหารในบางจุดเช่นโรงแรม และ วัด ซึ่งมีบังเกอร์อยู่ด้านหน้าในการรักษาความปลอดภัย และมีตำรวจอยู่ในบางจุด เพราะยังเป็นพื้นที่ที่ยังไม่ถูยึกจากกำลังกลุ่มชาติพันธุ์



ขณะที่ประชาชนในเมืองเมียวดี ยอมรับว่า มีความเป็นห่วงสถานการณ์ แต่ภายในเมืองยังเป็นปกติ ยังไม่มีการสั่งอพยพ และกำลังติดตามข่าวกรณีจะมีการส่งเชลยศึกผ่านทางสนามบินแม่สอด ซึ่งเป็นห่วงเช่นเดียวกันว่าจะเกิดการโจมตี ซึ่งในเขตเมือง ยังมีทหารประจำการอยู่บางส่วน และไม่อยากให้เกิดความรุนแรงกระทบการค้าขายบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา