เร่งสอบสวน หาสาเหตุเครื่องบินชนกัน ที่ญี่ปุ่น

ทางการญี่ปุ่นเร่งดำเนินการสอบสวน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง หลังเกิดเหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบิน เจแปน แอร์ไลนส์ เฉี่ยวชนกับเครื่องบินหน่วยยามฝั่งญี่ปุ่น ที่สนามบินฮาเนดะในกรุงโตเกียว จนทำให้เกิดไฟลุกท่วมและลูกเรือของหน่วยยามฝั่งเสียชีวิต 5 นาย เมื่อวานนี้

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการความปลอดภัยด้านคมนาคมของญี่ปุ่น ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบซากเครื่องบินทั้งสองลำ ที่อยู่ในสภาพถูกเผาวอด บริเวณจุดเกิดบนรันเวย์ ภายในสนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว เพื่อหาหลักฐานและเบาะแสสำคัญ ที่สามารถบ่งบอกถึงสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินโดยสาร สายการบิน เจแปน แอร์ไลน์ เที่ยวบิน JAL 516 พร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือ 379 คน พุ่งชนกับเครื่องบินหน่วยยามฝั่ง หลังจากร่อนลงจอดบนรันเวย์เดียวกัน จนเกิดไฟลุกไหม้ทั่วทั้งลำ เป็นเหตุลูกเรือ บนเครื่องบินหน่วยยามฝั่ง 5 ใน 6 นาย เสียชีวิต ขณะที่ผู้โดยสารและลูกเรือบนเที่ยวบิน JAL 516 ต้องอพยพออกจากเครื่องบินได้ทันเวลา ก่อนที่เครื่องบินจะถูกเผาวอดทั้งลำ รอดตายอย่างหวุดหวิด แต่ก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 17 คน

ล่าสุด เจ้าหน้าที่สอบสวนญี่ปุ่น กำลังกู้ข้อมูลจากจากกล่องดำของเครื่องบินหน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นแล้ว เพื่อให้ได้ข้อมูลการสื่อสารระหว่างนักบินและหอควบคุมการบิน ณ เวลาที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่หอควบคุมการจราจรทางอากาศที่สั่งการไปยังเครื่องบินทั้งสองลำ ให้อยู่บนรันเวย์เดียวกัน ก่อนที่จะเกิดเหตุสลดดังกล่าว และในขณะเดียวกันนี้ ตำรวจกรุงโตเกียว ได้เริ่มการสอบสวนหาสาเหตุการชนของเครื่องบินทั้งสองลำบนรันเวย์ ว่า เกี่ยวข้อง กับความประมาทเลินเล่น หรือไม่

ขณะที่ นา ฮิโรยูกิ โกบายาชิ อดีตนักบินสายการบินเจแปน แอร์ไลนส์ และนักวิเคราะห์ด้านการบิน ได้แสดงความเห็นกับสำนักข่าวต่างประเทศ ว่า เหตุดังกล่าว มีแนวโน้มว่าจะเป็นความผิดพลาดของมนุษย์ เนื่องจากมีข้อสงสัยว่า ทำไม เครื่องบินหน่วยยามฝั่ง อยู่บนรันเวย์ ที่ถูกเคลียร์พื้นที่ให้เครื่องบินโดยสารอีกลำ ร่อนลงจอด ซึ่งน่าจะเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด หรือความเข้าใจผิด กับศูนย์ควบคุมการบิน

ทั้งนี้ หลังจากทีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ นาทีชีวิตภายในห้องผู้โดยสารบนเครื่องบินเจแปน แอร์ไลน์ หลายฝ่ายต่างออกมาชื่นชมการทำงานอย่างมืออาชีพของลูกเรือ ที่สามารถอพยพผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดได้อย่างปลอดภัย ภายในเวลาไม่กี่นาที โดยผู้โดยสารรายหนึ่ง เผยว่า ลูกเรือใช้ประตูฉุกเฉินด้านที่ไม่ถูกไฟไหม้ และใช้เวลาภายใน 5 นาทีก็สามารถอพยพผู้โดยสารออกมาได้ทั้งหมดและหลังจากนั้น 10 ถึง 15 นาทีเขาก็เห็นไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการรอดตายอย่างปาฎิหารย์เลยทีเดียว

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน แสดงความคิดเห็นว่า เป็นการอพยพฉุกเฉินที่ไม่มีทีติ ซึ่งเขาเห็นว่า ผู้โดยสารอพยพออกจากทางออกฉุกเฉิน โดยไม่มีกระเป๋าเดินทาง หรือสัมภาระติดตัว ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำของลูกเรือ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้การอพยพเป็นไปอย่างรวดเร็ว