ต่างประเทศ
ยามชายฝั่งสหรัฐฯ เดินหน้าหาซาก 'ไททัน' ต่อ เร่งวิเคราะห์สาเหตุระเบิด คร่า 5 ชีวิต
โดย nut_p
23 มิ.ย. 2566
196 views
หน่วยยามชายฝั่งของสหรัฐอเมริกาเดินหน้าหาสาเหตุการระเบิดของยานสำรวจใต้น้ำไททัน หลังจากเมื่อวานนี้ มีการออกมายืนยันว่ายานเกิดระเบิดอย่างรุนแรงใต้น้ำทำให้ผู้โดยสารทั้ง 5 คนเสียชีวิต
หลังจากที่นานาประเทศ ทั้ง สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, และฝรั่งเศส ระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์และเทคโนโลยีไปช่วยค้นหายานสำรวจใต้น้ำไททันที่สูญหายไประหว่างดำลงไปสำรวจซากเรือไททานิคใต้มหาสมุทรแอตแลนติก เป็นระยะเวลาทั้งหมด 5 วัน
เมื่อวานนี้ พลเรือตรีจอห์น เมาเกอร์ จากหน่วยยามชายฝั่งของสหรัฐอเมริกา แถลงยืนยันว่าผู้โดยสาร 5 คนน่าจะเสียชีวิตทั้งหมด หลังยานสำรวจใต้น้ำควบคุมทางไกล หรือ ROV ของแคนาดา พบชิ้นส่วนของยานไททันทั้งหมด 5 ชิ้น เช่น กรวยหางยานดำน้ำ, แท่นลงจอด, ส่วนของช่องหน้าต่างด้านหน้า, และชิ้นส่วนของตัวถัง กระจายอยู่บนพื้นใต้ทะเล ห่างจากหัวเรือไททานิค 488 เมตร
พลเรือตรีเมาเกอร์กล่าวว่าชิ้นส่วนต่าง ๆ ของยานไททันแตกกระจายจากการระเบิดอย่างรุนแรง สืบเนื่องจากการถูกบีบอัดจากแรงดันของน้ำ แม้ว่าการกู้ร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 5 คนจะเป็นไปได้ยาก แต่หน่วยยามชายฝั่งสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าค้นหาอย่างถึงที่สุด และจะสำรวจพื้นใต้ทะเลต่อไปเพื่อหาค้นหาซากยานและเก็บเบาะแสมาวิเคราะห์สาเหตุที่แน่ชัดของการระเบิดต่อไป
พลเรือตรีเมาเกอร์บอกว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปได้ว่ายานไททันระเบิดเมื่อไหร่ เพราะตั้งแต่ที่ทีมค้นหาติดตั้งทุ่นโซนาร์ในพื้นที่เป็นเวลากว่า 3 วัน ก็ไม่ได้ตรวจพบเสียงดังรุนแรงใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการระเบิดของยานไททันเลย แต่จากการวิเคราะห์จุดที่พบและเวลาที่มีการสื่อสารครั้งสุดท้าย เชื่อว่าการระเบิดเกิดขึ้นในขณะที่ยานกำลังดำดิ่งลงไปใกล้กับเรือไททานิค ตั้งแต่วันอาทิตย์
ข้อสันนิษฐานดังกล่าวค่อนข้างสอดคล้องกับข้อมูลของกองทัพสหรัฐฯ ที่เปิดเผยว่า มีการตรวจสอบเสียงผิดปกติกับเสียงระเบิด เมื่อวันอาทิตย์ จึงได้แจ้งไปยังหน่วยยามชายฝั่ง แต่ขณะนั้นยังไม่ทราบเป็นเสียงอะไร ทำให้การค้นหายังคงดำเนินต่อไป
ด้านผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ในความลึกที่ระดับประมาณ 3,800 เมตร ยานสำรวจใต้น้ำไททัน ต้องเจอกับแรงดันน้ำมหาศาล ซึ่งปกติบริเวณพื้นผิวทะเลจะมีแรงดัน 1 ความดันบรรยากาศหรือ ประมาณ 6.6 กิโลกรัมต่อตารางนิ้ว และแรงดันจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวในทุก ๆ 10 เมตรที่ดำลงไปใต้น้ำ ดังนั้น ที่ระดับความลึกดังกล่าว ยานฯ ต้องเจอกับแรงดันใต้น้ำสูงถึง 380 ความดันบรรยากาศ หรือ ประมาณ 2,500 กิโลกรัมต่อตารางนิ้ว
ผู้เชี่ยวชาญยังบอกอีกว่า แรงดันที่มหาศาลอาจทำให้ผู้โดยสารไม่รู้ตัวเลยว่าเกิดระเบิด เนื่องจากตัวถังของยานถูกกดด้วยแรงดันจนยุบตัวด้วยความเร็วประมาณ 2,400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเกิดระเบิดภายในเวลาประมาณ 1 มิลลิวินาที ซึ่งสมองของมนุษย์ใช้เวลาตอบสนองต่อสิ่งเร้าโดยสัญชาตญาณประมาณ 25 มิลลิวินาที
สำหรับผู้โดยสารทั้ง 5 คน ประกอบไปด้วย นายสต็อกตัน รัช อายุ 61 ปี ประธานเจ้าหน้าที่บริษัทโอเชียนเกต เอ็กส์เพดิชัน ซึ่งเป็นเจ้าของยานสำรวจใต้น้ำไททัน, นายฮามิช ฮาร์ดิง อายุ 58 ปี นักธุรกิจพันล้านและนักสำรวจชาวอังกฤษ และประธานบริษัทด้านอากาศยาน แอคชัน เอวิเอชัน, นายพอล อองรี นาร์จีโอเลต นักสำรวจชาวฝรั่งเศสวัย 77 ปี
ส่วนอีก 2 คนคือนายชาห์ซาดา ดาวุด อายุ 48 ปี นักธุรกิจชาวปากีสถานและนายสุเลมาน ดาวุด ลูกชายวัย 19 ปี มีรายงานลูกชายตัดสินใจเดินทางไปกับยานไททันเพราะต้องการเป็นของขวัญให้กับพ่อ ซึ่งวันที่พวกเขาออกเดินทางนั้นเป็นวันพ่อของหลายประเทศพอดี
บริษัทโอเชียนเกต ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อการสูญเสียบุคคลทั้ง 5 คน และว่าชายเหล่านี้เป็นผู้กล้าหาญ มีจิตวิญญาณของการผจญภัย และเป็นนักสำรวจอย่างแท้จริง
ด้านเจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องไททานิค และเคยลงไปสำรวจซากเรือไททานิคมาแล้วถึง 33 ครั้ง ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เขารู้อยู่ตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับยานสำรวจใต้น้ำไททัน ซึ่งหลังวันที่ยานสำรวจใต้น้ำไททันสูญหายได้ 1 วัน เขาได้ส่งอีเมลไปทุกคนที่เขารู้จักและบอกว่า ทั้งหมดน่าจะเสียชีวิตจากการระเบิดของยานสำรวจใต้น้ำไททันแล้ว และชิ้นส่วนน่าจะอยู่บนพื้นที่ใต้ทะเล