ปธน.ยูเครน ลั่นไม่ยอมแพ้ หลังรัสเซียยึดเมืองเมลิโทโปลสำเร็จ

ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนวันที่ 3 วันนี้ กองกำลังรัสเซียสามารถยึดเมืองเมลิโทโปล เมืองใหญ่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของยูเครนได้แล้ว ขณะที่ผู้นำยูเครนเผย ตอนนี้ชาติตะวันตกเตรียมจัดส่งอาวุธให้ยูเครนแล้ว




ขณะที่การสู้รบที่กรุงเคียฟ ก็เป็นไปอย่างหนักหน่วง มีรายงานว่า เกิดการปะทะกันตามท้องถนนในเมืองหลวงของยูเครนแล้ว หลังจากกองกำลังรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีเข้ามา




ขีปนาวุธ 1 ลูกถูกยิงมาโดนอพาร์ทเมนต์หลังหนึ่งใกล้สนามบินกรุงเคียฟ ที่ชั้น 17 และ 18 มีผู้บาดเจ็บ 6 คน ช่วงเช้าที่ผ่านมาประธานาธิบดีโวโลดีร์มีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนได้เตือนประชาชนว่า วันนี้จะเป็นวันที่ยากลำบากที่สุด กองกำลังรัสเซียรุกคืบเข้ามาแล้ว ประชาชนที่หลบภัยอยู่ในบ้าน ให้อยู่ห่างหน้าต่างบ้านให้มากที่สุด




ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ส เปิดเผยภาพท้องถนนที่แทบจะว่างเปล่าในกรุงเคียฟ ขณะที่เสียงไซเรนเตือนภัยดังขึ้นตลอดทั้งวัน




ในวันนี้ประธานาธิบดีเซเลนสกี้ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ย้ำว่า จะสู้อยู่ที่กรุงเคียฟ และย้ำว่า ชาวยูเครนอย่าได้หลงเชื่อข่าวปลอมที่ว่า กองทัพยูเครนยอมวางอาวุธแล้ว เซเลนสกี้ กล่าวว่า ตอนนี้ชาติตะวันตกหลายชาติเสนอจัดส่งอาวุธให้ยูเครนแล้ว ขณะที่สำนักข่าวสกายนิวส์รายงานว่า ตอนนี้มีประเทศทั้งหมด 28 ชาติ ที่เตรียมจัดส่งทั้งอาวุธ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับยูเครน




ในวันนี้ยูเครนได้รายงานตัวเลขชาวยูเครนที่เสียชีวิตช่วง 3 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 198 คน ในจำนวนนี้มีเด็ก 3 คน บาดเจ็บ 1,115 คน อาคารของพลเรือนอย่างน้อย 40 แห่งถูกทำลาย ขณะที่ทหารรัสเซียเสียชีวิตไป 3,500 นายแล้ว และอีกเกือบ 200 นายถูกจับกุม และยังสามารถทำลายรถถังรัสเซียได้ 102 คัน เครื่องบินอีก 14 ลำ ผู้นำยูเครนยังบอกด้วยว่า กองกำลังยูเครนสามารถทำลายแผนโจมตีของรัสเซียได้




อย่างไรก็ตามทางฝั่งรัสเซียไม่ได้เปิดเผยตัวเลขการสูญเสียทางฝั่งของตน แต่วันนี้ออกมายืนยันว่า กองกำลังของตนสามารถยึดเมืองเมลิโตโปล (Melitopol )ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน มีประชากร 1 แสน 5 หมื่นคนได้แล้ว หากเป็นจริง ก็จะเป็นเมืองใหญ่เมืองแรกของยูเครนที่รัสเซียยึดครองได้




ขณะที่ชาวยูเครนที่เป็นผู้หญิง เด็กและคนชรา ยังคงไหลทะลักอพยพออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน




ยูเอ็นรายงานว่า 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ชาวยูเครนอพยพออกจากประเทศแล้วกว่า 1 แสนคน ทั้งที่โปแลนด์ ฮังการี่ สโลวะเกีย และโรมาเนีย โดยที่โปแลนด์ เป็นจุดหมายปลายทางที่ชาวยูเครนอพยพไปมากที่สุด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอพยพไปแล้ว 9 พันคน ในวันนี้ทางการโปแลนด์เผยว่า นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน โปแลนด์รับชาวยูเครนเข้าไปในประเทศแล้วประมาณ 1 แสนคน ยูเอ็นกล่าวว่า หากการสู้รบยังไม่ยุติ จะเกิดคลื่นผู้อพยพครั้งใหญ่ในยุโรป




ด้านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ รายงานการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน หลังตั้งศูนย์ช่วยเหลือคน ณ เมืองลวิฟ ของยูเครน เมื่อ 25 กุมภาพันธุ์ ล่าสุด มีคนไทยทยอยเดินทางมายังศูนย์ช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง




ในวันที่ 27 กุมภาพันธุ์นี้ จะนำคนไทยราว 40 คน จากเมืองออแดซาของยูเครน ผ่านแดนยูเครนไปยังกรุงบูคาเรสต์ ของโรมาเนีย เพื่อเตรียมอพยพกลับไทยโดยเครื่องบินพาณิชย์ในวันที่ 1 และ 2 มีนาคม




ส่วนคนไทย ในเมืองลวิฟ ราว 30-60 คน จะอพยพไปยังกรุงวอร์ซอ ของโปแลน์ ในวันจันทร์ที่ 28 กุมพาพันธุ์ เพื่อเตรียมการเดินทางกลับประเทศไทยเช่นกัน ยืนยันความพร้อมในการสนับสนุนภารกิจภาครัฐในการรับคนไทยในประเทศยูเครนกลับสู่ประเทศไทย โดยได้ติดตามสถานการณ์และประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง และได้เตรียมความพร้อมสำหรับการจัดเที่ยวบินสนับสนุนภารกิจทันทีที่ได้รับการร้องขอ