ชาวบ้านร้องซ้ำ “ลุงตี๋” กลับมาให้อาหารนกพิราบอีกแล้ว อ้างมาให้อาหารแมว แต่สงสารจึงแบ่งนก

หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีฝูงนกพิราบ ประมาณ 200 ตัว บินผ่านไปมา และเกาะตามหลังคาบ้าน รั้วประตูบ้าน ขับถ่ายใส่เสื้อผ้าที่ตากไว้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอยู่ตลอดเวลา เพราะมีนายแสงชัย หรือลุงตี๋ อายุ 69 ปี เพื่อนบ้านที่ชอบให้อาหารนกพิราบอยู่เป็นประจำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าพูดคุยเพื่อชี้แจงข้อกฎหมายให้รับทราบ จนกระทั่งลุงตี๋รับปากกับสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าจะไม่ให้อาหารนกพิราบอีก ก่อนจะจับมือกับทางชาวบ้านผู้ร้องเรียนต่อหน้าสื่อมวลชน

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 17 ธ.ค. 67 ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอัยการจังหวัดนนทบุรี , ประธานกิตติมศักดิ์ กต.ตร. จังหวัดนนทบุรี และผู้ก่อตั้งเพจ” ดร.แก้วช่วยได้ “พร้อมทีมข่าว ได้ลงพื้นที่ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า นายแสงชัย หรือลุงตี๋ อายุ 69 ปี ออกมาให้อาหารนกพิราบบริเวณหน้าบ้านซ้ำ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่โดยมีกลิ่นเหม็นขี้เรี่ยราด รวมถึงขนนกที่ปลิวเต็มพื้นถนนและเข้าไปยังบ้านของชาวบ้าน

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายแสงชัย หรือลุงตี๋ ผู้ให้อาหหารนก โดยพูดคุยนานกว่า 40 นาที โดยช่วงแรกลุงตี๋ ไม่ยอมรับว่าเป็นคนให้อาหารนก โดยอ้างว่าให้อาหารแมวแทน และชาวบ้านไม่มีภาพถ่ายเกี่ยวกับตนที่ออกมาให้อาหารนก มีเพียงแต่คลิปนกพิราบบินอยู่หน้าบ้านตน จนกระทั่งด้านดร.แก้ว และตร.รัตนาธิเบศร์ ได้เข้ามาพูดคุยสอบถาม ลุงตี๋นั้นได้รับว่าเป็นคนให้อาหารนกจริง แต่ให้น้อยกว่าเดิม

โดยรอบนี้จะโยนเป็นอาหารแมวแทนอาหารนก เพราะอาหารนกตนได้ทิ้งไปแล้ว ส่วนสาเหตุที่ให้ก็เป็นเพราะสงสารนกเห็นเดินมาเกาะ 5-6 ตัว ซึ่งตนก็เคยขอกับชาวบ้านแล้วว่าขอให้นิดเดียว แต่หลังจากให้ไปก็กลายเป็นถูกร้องเรียนเสียเอง ซึ่งตนได้เลิกให้ไปประมาณครึ่งปีแล้วหลังจากเป็นข่าว ซึ่งวันนี้ได้พูดคุยกับชาวบ้านและตนขอรับปากอีกครั้งว่าหลังจากนี้จะไม่ให้อาหารนกอีกแล้ว

น.ส.เจี๊ยบ อายุ 45 ปี ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า หลังจากที่ตนเคยร้องเรียนไปครั้งที่แล้ว ลุงตี๋ก็หยุดให้อาหารนกพิราบ แต่มาช่วง 1-2 เดือนหลังลุงตี๋ก็กลับมาให้อาหารนกพิราบอีกเหมือนเดิม ทุกวันนี้นกพิราบมีจำนวนเยอะขึ้นมากกว่าเดิม ตนและครอบครัวได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากมีลูกเล็กและพ่อแม่ที่แก่ชราแล้ว ไม่สามารถออกมาเดินรับลมนอกบ้านได้ เพราะทุกวันนี้นกมีจำนวนมากขึ้น เกาะตามรั้วบ้าน ราวตากผ้า เสี่ยงต่อเชื้อโรคและมีกลิ่นเหม็น ทางครอบครัวลุงตี๋ก็มีล้างพื้นทำความสะอาดบ้าง แต่พวกเราก็ไม่อยากให้ลุงตี๋ให้อาหารนกพิราบอีก

ซึ่งลุงตี๋บอกว่าพวกตนไม่มีน้ำใจ เขามีน้ำใจให้อาหารนกพิราบ วันนี้ต้องขอบคุณดร.แก้ว และทีมงาน ที่ช่วยมาลงพื้นที่เพื่อเจรจากับลุงตี๋อีกครั้ง เราคิดว่าเราคุยด้วยวิธีปกติกับลุงตี๋ไม่ได้เลยอยากให้มีตัวกลางมาช่วยพูดคุย เพราะชาวบ้านเดือดร้อน และพวกเราก็ออกมาเป็นปากเป็นเสียงให้กับชาวบ้านอีกหลายคนที่ไม่ได้ออกมาวันนี้ พวกเราไม่อยากทะเลาะกับลุงตี๋ อยากให้อยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุข

ดร.ปรเมศร์ หรือดร.แก้ว กล่าวว่า วันนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่เรื่องที่ลุงตี๋ให้อาหารนกพิราบอีกแล้ว ก่อนหน้านี้เราเคยได้มีการตักเตือนลุงตี๋ไปแล้ว และขอให้ยุติแต่โดยดี ซึ่งวันนี้ลุงตี๋ได้กลับมาให้อาหารนกพิราบเหมือนเดิม แต่จำนวนนกพิราบก็ไม่ได้มากมายเหมือนครั้งก่อน เท่าที่ดูไม่เกิน 100 ตัว ซึ่งเราได้มีการเตือน และลุงตี๋ก็รับปากว่าจะไม่ทำอีก หลังจากนี้หากลุงตี๋ยังให้อาหารนกพิราบอยู่ เราจะดำเนินการตามกฎหมาย เรื่องพ.ร.บ.สาธารณสุข และเปรียบเทียบปรับ ในเรื่องของการก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านในพื้นที่ต่อไป

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับป้าน้อย ภรรยาลุงตี๋ หลังจากได้เดินออกมาที่บริเวณชั้นสองของบ้านถือหนังสติ๊กไล่ยิงนกพิราบต่อหน้าผู้สื่อข่าว โดยป้าน้อย กล่าวด้วยความเอือมระอาว่า ตนได้ซื้อหนังสติ๊กมายิงนกโดนเอากระดาษมาพับมัดหนังยางเป็นก้อนไว้ยิงไล่นกพิราบ ถ้ายิงไปโดนกระจกหรือสิ่งของชาวบ้านก็จะไม่มีปัญหา ซึ่งตนไล่ยิงตั้งแต่ที่เป็นข่าวครั้งที่แล้ว เมื่อนกพิราบเห็นตนก็จะบินหนีไป ตนบ่นลุงตี๋เป็นประจำ และพูดคุยมาตลอดแต่ลุงตี๋เป็นคนดื้อ ลูกสาวก็คอยห้ามแต่ไม่ฟัง ทางบ้านไม่มีใครสนับสนุน

ลุงตี๋อ้างว่าสงสารนกพิราบเพราะไม่มีใครให้กินมีแต่คนรังเกียจมัน ลุงตี๋จึงจำเป็นต้องคอยให้อาหาร ตนอยากให้หน่วยงานมาจัดการให้เด็ดขาด เพราะตนก็จะได้สบายใจ ทุกวันนี้ก็ต้องคอยมาล้างพื้นหน้าบ้านไม่ทันไรนกก็มาอีก รู้สึกเซ็ง แต่ไม่รู้จะทำยังไง พยายามไม่มองไม่งั้นก็คงมีปัญหาในครอบครัว