24 ธ.ค. 2567
“กิตติรัตน์” ไม่ผ่านคุณสมบัตินั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ “นายกฯ” บอกให้เป็นไปตามขั้นตอน
paranee_s
คุณต้องการล้างการแจ้งเตือนทั้งหมด?
เปิดพฤติการณ์หลังตำรวจไซเบอร์จับสาวแสบ ตุ๋นข้าราชการบำนาญเกษียณสภาการศึกษา วัย 65 อ้างได้สิทธิรับเงินบำเหน็จดำรงชีพ 2 แสนบาท ลวงให้กดลิงก์-กรอกข้อมูล จนเข้าคอนโทรลโทรศัพท์มือถือได้ ก่อนล่อให้สแกนหน้ายืนยันตัวตน หาจังหวะกดโอนเงินออกเกลี้ยงบัญชีกว่า 4 ล้านเศษ
ด้านตำรวจไซเบอร์ เผย ตรวจพบบัญชีม้าเอี่ยว 5 บัญชี ระบุ เงินถูกกดออกไปหมดแล้วแถวๆประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่หนึ่งในบัญชีม้า อ้างไม่ได้รับจ้างเปิดบัญชี แต่นำบัญชีไปกู้เงินกับแอปในออนไลน์ คาดถูกนำไปใช้
กรณีที่ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 นำทีมเจ้าหน้าที่ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอกเหยื่อซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญอายุ 65 ปี จนหลงเชื่อกดลิงก์จาก SMS ลวงเหยื่อสแสกนหน้าอ้างให้ยืนยันตัวเตนรับเงินบำเหน็จ เมื่อยื่นยันตัวตนเสร็จแล้ว พบว่าไม่ได้รับเงินบำนาญตามที่คนร้ายบอก ก่อนพบว่าเงินในบัญชีถูกโอนออกไปกว่า 4 ล้านบาทเศษ
ทีมข่าวได้คุยกับ พ.ต.ท.ภานุวัฒน์ กาละศรี สว.กก.1 บก.สอท.1 ขยายความถึงกรณีดังกล่าวบอกว่า ไม่นานมานี้ มีผู้เสียหายเป็นข้าราชการบำนาญ อายุ 65 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร แจ้งว่ามีคนร้ายแอบอ้างเป็นเป็นเจ้าหน้าที่ของสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ติดต่อมาเพื่อแจ้งสิทธิในการขอรับเงินบำเหน็จดำรงชีพผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป โดยจะได้รับเงินบำเหน็จดำรงชีพ จำนวน 200,000 บาท แต่ต้องเข้าไปกรอกข้อมูลยืนยันสิทธิเพื่อขอรับเงินก่อน ซึ่งคำให้การของผู้เสียหาย บอกว่าที่หลงเชื่อเนื่องจากว่ายอดนี้เป็นยอดเงินที่ตรงกันกับยอดที่จะได้
จากนั้นคนร้ายได้ส่งลิงก์มาให้ทาง SMS และเมื่อกดลิงก์เพื่อกรอกข้อมูลบัญชีส่วนตัวทั้ง บัญชีธนาคาร / รหัสประจำตัวประชาชน และอ้างว่าหากกรอกกรอกข้อมูลในลิงค์แล้วมีสิทธิ์จะได้รับเงินบำเหน็จดำรงชีพ ผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จากนั้นให้แอดไลน์กรมบัญชีกลางเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและกรอกข้อมูลอีกครั้ง
ทั้งนี้จากการสอบปากคำและดูพฤติการณ์ของมิจฉาชีพเชื่อได้ว่า เป็นวิธีการส่งลิ้งก์เพื่อหลอกลวงหวังเข้าไปควบคุมโทรศัพท์มือถือ และหากกรอกข้อมูลหรือกดลิงก์แล้ว จึงถือว่าเป็นการยินยอมให้มิจฉาชีพสามารถควบคุมโทรศัพท์มือถือได้ ซึ่งตำรวจไซเบอร์ขอยืนยันว่ามีวิธีการแบบนี้ที่สามารถบังคับมือถือได้จริง
จากนั้นมิจฉาชีพให้ผู้เสียหายสแกนใบหน้าจำนวนหลายครั้ง เพราะในปัจจุบันหากโอนเงินเกิน 50,000 ต่อครั้งต้องมีการสแกนใบหน้า จากนั้นมิจฉาชีพให้ผู้เสียหายเดินทางไปยืนยันตัวตนเพื่อรับเงินบำเหน็จดำรงชีพหน้าตู้เอทีเอ็ม จึงได้เดินทางไปที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารแล้วเสียบบัตรประจำตัวประชาชนและทำการสแกนหน้าเพื่อยืนยันตัวตนผ่านตู้เอทีเอ็ม เมื่อยืนยันตัวตนเสร็จแล้ว พบว่าไม่ได้รับเงินบำนาญตามที่คนร้ายบอก และพบว่าเงินในบัญชีถูกโอนออกไปจากการควบคุมโทรศัพท์มือถือของมิจฉาชีพ กว่า 4 ล้านบาท โดยยอด 4 ล้านบาทนี้ ถูกโอนไปจำนวน 6 ครั้ง เฉลี่ยความถี่ในการโอน 1 นาทีต่อครั้ง
ส่วนผู้เสียหายมาเอะใจหลังจากที่พบว่าไม่ได้เงิน 200,000 บาทตามตกลง จากนั้นจึงโทรศัพท์ไปตรวจสอบกับสภาการศึกษา ก่อนได้รับคำตอบว่าไม่ใช่ความจริงไม่มีการโอนเงินให้ 200,000 บาท
จากนั้นเจ้าตัวได้ไปตรวจสิงเงินในบัญชีและพบว่าเงินถูกกดออกไปทั้งหมดแล้ว 4 ล้านบาทเศษ จึงเชื่อว่ามิจฉาชีพมาหลอกก่อนมาแจ้งความที่ตำรวจไซเบอร์
โดยเคสนี้ทางตำรวจไซเบอร์ระบุว่าผู้เสียหายหลังจากทราบว่าถูกหลอกตกใจมาก จึงลบข้อมูลหลักฐานทั้งลิงค์ที่ส่งมายัง SMS หรือ ไลน์ของกรมบัญชีกลางต่างๆออกทั้งหมดทั้งหมด นำมาเพียงสเตทเม้นท์ที่มักร้องต่อตำรวจไซเบอร์เท่านั้น ซึ่งทางตำรวจไซเบอร์เมื่อสอบปากคำและดูความเคลื่อนไหวของสเตทเม้นท์เชื่อได้ว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกันจึงขยายผลเรื่องนี้ต่อ และออกหมายจับไว้แล้วเบื้องต้น 5 ราย
รายที่ 1-2 เป็นบัญชีม้าแถวที่ 1 รายที่ 3-4 เป็นบัญชีม้าแถวที่ 2 และรายที่ 5 เป็นบัญชีม้าแถวที่ 3 และขณะนี้ทราบแล้วว่ามีการทยอยเงินออกไปทั้งหมดแล้ว 4 ล้านบาทใกล้ๆกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยกดเป็นเงินสดไม่มีการแปลงสกุลเงินแต่อย่างใด สำหรับกรณีนี้ ทางตำรวจไซเบอร์เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีข้อมูลของข้าราชการบำเหน็จบำนาญเนื่องจากข้อมูลรั่วไหล ตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้
ส่วนบัญชีม้า ภายหลัง พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึงผบก.สอท.1 ได้สั่งการให้ขยายผล พบว่าก่อนหน้านี้จับได้แล้ว 3 ราย คือบัญชีม้าแถว 1 จำนวน 1 ราย และแถว 2 รวบได้ทั้ง 2 ราย ส่วน บัญชีม้าแถวที่ 5 อยู่ระหว่างติดตามตัว แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. จับบัญชีมาแถวที่หนึ่งได้เพิ่มเติม 1 ราย คือ น.ส.พัชราภรณ์ (สงวนนามสกุล ) อายุ 30 ปี ชาว จ.สระแก้ว โดยควบคุมตัวได้ที่บริเวณริมถนนสาธารณะ ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา
-ร่วมกันลักทรัพย์โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน
-ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง
-ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน
-ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบและเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น
-และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือคามผิดทางอาญาอื่นใด
โดย พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ ได้เข้าสอบปากคำด้วยตัวเอง ช่วงหนึ่ง น.ส.พัชราภรณ์ ผู้ต้องหา ให้ข้อมูลว่า ตัวเองไม่ได้รับจ้างเปิดบัญชีม้า แต่เอาบัญชีตัวนี้ไปกู้เงินในแอปหนึ่ง และได้ให้สมุดบัญชีธนาคารไป พร้อมทั้งสำเนาบัตรประชาชนหน้า-หลังไป แต่ปรากฏว่าแอปเงินกู้นี้ไม่ได้อนุมัติเงินให้ ขณะที่ผู้การฯ แจ้ ได้บอกกับ ผู้ต้งหาไปว่า แต่สุดท้ายกลายเป็นบัญชีม้า ทำให้ประชาชนได้รับความเสียหาย ก็ต้องยอมรับผิดไป จากนั้นตำรวจได้ตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หลังจากจับบัญชีม้า ได้แล้วบางส่วน ทีมข่าวถามกับพ.ต.ท.ภานุวัฒน์ ว่า ผู้เสียหายมีโอกาสในการได้คืนหรือไม่ พ.ต.ท.ภานุวัฒน์ ระบุว่า สำหรับคดีนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วมีบัญชีมาเกี่ยวข้องทั้งหมด 5 บัญชี และล่าสุดทาง ปปง. มีการประกาศเรื่องการเฉลี่ยทรัพย์คืน จากนี้ต้องไปดูว่าผู้เสียหายเคสนี้เข้าเงื่อนไขหรือไม่
หากตรวจสอบบัญชีมาแล้วเข้าข่ายก็สามารถเข้าสู่กระบวนการเฉลี่ยทรัพย์คืนได้ ก่อนจะทิ้งท้ายฝากไปถึง ประชาชนที่มีสิทธิรับเงินบำเหน็จบำนาญ ว่าอย่าหลงเชื่อและกดลิงก์ใดๆๆ และให้ตรวจสอบจากสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการก่อนทุกครั้ง
ด้าน พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ทำงาน 2 มาตรฐาน ตำรวจให้ความสำคัญทุกคดี ไม่มีคดีไหนให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ท่านสามารถเดินมาดูที่ สอท.1 ได้เลยว่าประชาชนเสียหายมากแค่ไหน บางคนร้องไห้มาร้องเรียนเยอะ ยืนยันทำงานทุกวัน และทำงานอย่างเท่าเทียม ไม่มี VIP กฎหมายเท่าเทียมกันทั้งหมด
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/QtdG9N7pieU
โดย thichaphat_d
20 ธ.ค. 2567
196 views
24 ธ.ค. 2567
paranee_s
24 ธ.ค. 2567
24 ธ.ค. 2567
24 ธ.ค. 2567
24 ธ.ค. 2567
24 ธ.ค. 2567
24 ธ.ค. 2567
24 ธ.ค. 2567
passamon_a
24 ธ.ค. 2567
passamon_a
24 ธ.ค. 2567
24 ธ.ค. 2567
24 ธ.ค. 2567
24 ธ.ค. 2567
24 ธ.ค. 2567
24 ธ.ค. 2567
24 ธ.ค. 2567
24 ธ.ค. 2567
24 ธ.ค. 2567
23 ธ.ค. 2567