ตำรวจท่องเที่ยวนำตรวจสอบที่เกิดเหตุ ชายอ้างเป็นไกด์ทำร้ายนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนบังคับซื้อเครื่องประดับ

จากกรณีสะเทือนวงการท่องเที่ยวอีกแล้ว หลังมีคลิปฉาวไกด์เถื่อนต่างชาติ ทำร้ายนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน กลางร้านจิวเวลรี่ดัง ย่านลาดกระบัง



คลิปเหตุการณ์ที่ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นไกด์เถื่อนต่างชาติ กำลังวิวาทะกับนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน โดยไกด์เถื่อนต่างชาติรายนี้ โวยวายต่อว่านักท่องเที่ยวว่าทำไมไม่ซื้อสินค้าที่ร้าน ซึ่งไม่ให้เกียรติไกด์ ก่อนที่ไกด์เถื่อนจะบุกเข้าไปผลักนักท่องเที่ยวสาว เพื่อไม่ให้ถ่ายคลิป จนนักท่องเที่ยวสาวรายนี้ร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของร้านจะมาเอาตัวไกด์เถื่อนรายนี้ออกไป แล้วคลิปก็ถูกตัดไป ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ร้านจิวเวลรี่ชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านลาดกระบัง เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา



ซึ่งร้านจิวเวลรี่แห่งนี้ เป็นที่รู้จักในวงการท่องเที่ยวว่าเป็นร้านที่รับทัวร์ศูนย์เหรียญโดยเฉพาะ ซึ่งไกด์เถื่อนต่างชาติจะพานักท่องเที่ยวให้มาซื้อสินค้าที่นี่ เพื่อรับค่าน้ำในการพานักท่องเที่ยวมาซื้อสินค้า ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าที่ไกด์เถื่อนรายนี้ ไม่พอใจนักท่องเที่ยวที่ไม่ยอมซื้อสินค้า จึงทำให้ไม่ได้รับค่าน้ำ และขาดทุนค่าหัวที่ซื้อมาจากบริษัททัวร์นั่นเอง



หลังจากคลิปนี้ ถูกเผยแพร่ออกไปในโซเชียล ทำให้มัคคุเทศก์ชาวไทยส่วนใหญ่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากพฤติกรรมของไกด์เถื่อนต่างชาติรายนี้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นอย่างมาก



ซึ่งก่อนหน้านี้ กลุ่มมัคคุเทศก์ชาวไทย ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา เพื่อให้เร่งปราบปรามไกด์เถื่อนต่างชาติ รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ลักลอบเข้ามาแย่งอาชีพสงวนของคนไทย แต่ผ่านมาได้เพียง 2 วัน ก็เกิดเหตุฉาวสะเทือนวงการท่องเที่ยวขึ้นมาเสียแล้ว จึงได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมการท่องเที่ยว และตำรวจท่องเที่ยว เร่งปราบปรามไกด์เถื่อนต่างชาติให้หมดไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยกลับคืนมา



ล่าสุด ตำรวจท่องเที่ยวนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ชายอ้างเป็นไกด์ทำร้ายนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนบังคับซื้อเครื่องประดับภายในร้านจิวเวลรี่ย่านลาดกระบัง เร่งขยายผลตรวจสอบว่าเป็นไกด์เถื่อนหรือไม่



เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ตำรวจท่องเที่ยวพร้อมเจ้าหน้าที่กรมการท่องเที่ยว นำกำลังเข้าตรวจสอบ ภายในบริษัทเครื่องประดับแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง ที่ปรากฏคลิปภาพชายชาวจีน ที่คาดว่าจะเป็นไกด์นำเที่ยว พยายามเข้าไปทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนที่ไม่ยอมซื้อสินค้าภายในร้าน เพื่อหวังว่าจะได้ค่านายหน้าจากร้านค้า ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล จนประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง



เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวให้ข้อมูลว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวสืบสวนจนทราบว่า ชายชาวจีนที่ปรากฏในภาพพยายามจะเข้าไปพูดคุยกับนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน และห้ามถ่ายภาพของตนเอง แต่ผู้เสียหายเข้าใจว่าชายผู้ก่อเหตุ พยายามที่จะเข้าทำร้ายร่างกาย จึงเกิดการโต้เถียงกันเกิดขึ้น



ส่วนรายละเอียดตำรวจท่องเที่ยวและกรมการท่องเที่ยวอยู่ระหว่างการตรวจสอบชายคนดังกล่าวว่าเป็นไกด์นักท่องเที่ยวจริงหรือไม่ เพราะอาจเป็นเพียงแค่ผู้แนะนำที่ให้มาซื้อสินค้า หรือเด็กเชียร์แขก ไม่ใช่ไกด์อาชีพ เพราะอาชีพนี้สงวนสำหรับคนไทยเพียงเท่านั้น และต้องไปขึ้นทะเบียนกับกรมการท่องเที่ยว จึงจะต้องตรวจสอบก่อนว่าเป็นไกด์จริงหรือไม่ และยังไม่สามารถจะสรุปว่ามีความผิดเกี่ยวกับเกี่ยวกับไกด์เถื่อนหรือไม่



ทั้งนี้ตำรวจท่องเที่ยวจะต้องเชิญผู้ที่ปรากฏในคลิปทั้งสองคนที่นอกเหนือจากผู้เสียหาย เข้ามาให้ข้อมูลปากคำ ถึงรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและข้อมูลเกี่ยวกับชายที่เข้ามาก่อเหตุ รวมถึงรายละเอียดของผู้เสียหายว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาติใด



นาย ชาติชาย ผู้บริหารฝ่ายการตลาด บริษัทจิวเวลรี่ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าชายคนดังกล่าวเป็นมัคคุเทศก์หรือรู้จักกับพนักงานภายในบริษัทหรือไม่ โดยจะตรวจสอบในระบบลงทะเบียนของทางบริษัทว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใครและจะส่งข้อมูลให้ตำรวจท่องเที่ยว ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยมีปัญหาเรื่องนักท่องเที่ยวมีปากเสียงกันภายในร้านและจะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยจัดการ ซึ่งกรณีนี้ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดว่าเกิดขึ้นจากอะไรจนกระทั่งมีคลิปปรากฏ



นอกจากนี้ยังยอมรับว่าทางบริษัทมีนโยบายให้ค่าคอมมิชชั่นหรือเปอร์เซ็นต์กับบริษัททัวร์ รถเช่า ที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาซื้อของที่ร้าน แต่ยืนยันว่าทางร้านไม่มีนโยบายบังคับซื้อสินค้า และหากไม่พอใจในสินค้าสามารถนำสินค้ามาส่งคืนได้ตลอดชีพ ซึ่งที่ผ่านมาดำเนินการทุกอย่างตามกรอบของกฎหมายและพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่





ด้านพันตำรวจเอก สมชาย ธีรภัทร์ไพศาล รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบจากฐานข้อมูลของกรมการท่องเที่ยวและข้อมูลการลงทะเบียนเข้ามาชมสินค้าภายในร้าน ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร ส่วนจะเป็นมัคคุเทศก์จริงหรือไม่ต้องรอตรวจสอบกับฐานข้อมูลของกรมการท่องเที่ยว



ด้านนาย ยงยศ สำราญสุข เจ้าหน้าที่กรมการท่องเที่ยวก็เปิดเผยสอดคล้องกันว่ายังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าชายคนดังกล่าวเป็นมัคคุเทศก์ที่ลงทะเบียนถูกต้องกับทางกรมหรือไม่ ซึ่งการจะเป็นมัคคุเทศก์ถูกต้องตามกฎหมายจะต้องมีการลงทะเบียนกับกรมเท่านั้น แปลกขนาดนี้คลิปที่เผยแพร่เป็นคลิปสั้นและยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้ว่าชายคนดังกล่าวเป็นใครซึ่งต้องรอข้อมูลจากทางตำรวจท่องเที่ยวพิสูจน์ทราบตัวบุคคลให้ชัดเจน ส่วนการดำเนินคดีดังกล่าวก็ต้องตรวจสอบข้อมูลพฤติการณ์อีกครั้ง

โดย kanyapak_w

19 ก.ย. 2567

360 views

EP อื่นๆ