‘ทนายเดชา’ จี้ ‘บิ๊กตำรวจ’ ฉะกัน อย่าเป็นมวยล้มต้มคนดู ด้าน ‘2 อดีต ตร.’ ไว้ทุกข์องค์กร

วันที่ 23 ก.พ. 67 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล, ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์, พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถึงกรณี “บิ๊กโจ๊ก – บิ๊กเต่า” โต้กันยับคดีเว็บพนันมินนี่ หลัง “บิ๊กเต่า” มั่นใจในพยานหลักฐานเชื่อมโยง “บิ๊กตำรวจ”

“อาจารย์โต้ง” รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล เผยในรายการโหนกระแส กรณีตำรวจตัดตำรวจ “บิ๊กโจ๊ก – บิ๊กเต่า” โต้กันยับคดีเว็บพนันมินนี่ หลัง “บิ๊กเต่า” มั่นใจในพยานหลักฐานเชื่อมโยง “บิ๊กตำรวจ” โดยให้ความเห็นว่า ถ้าจะตรวจสอบทั้งที ไม่ใช่แค่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของ “บิ๊กโจ๊ก” แต่ควรตรวจสอบทั้งองค์กรตำรวจเลยดีหรือไม่ ว่าแต่ละคนมีเส้นทางการเงินอย่างไร สำนักงาน

“ทรัพย์สินได้มายังไง ภรรยาทำงานอะไร ลูกเรียนเมืองนอก กระเป๋า เสื้อ รถ อย่างผู้นำประเทศจอร์เจียมีการปฏิรูปตำรวจ ทราบไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น ตำรวจหายไปครึ่งกรมครับ” อ.โต้ง กล่าว...

ทำให้ “ทนายเดชา” ห้ามทันทีว่า “แต่บ้านเราไม่น่าเหลือนะ ถ้าตรวจขนาดนั้น ไม่น่าเหลือๆๆ จะเหลือแค่รูปปั้นที่อุ้มเด็กอยู่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติน่ะ ขอร้องเลยเดี๋ยวไม่มีคนจับคนร้าย ไทยน่าจะหมด ไม่น่าเหลือ เหลือแต่รูปปั้นหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาจารย์อย่าเอาขนาดนั้นเลยครับ”

ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า การดำเนินคดีเว็บพนันมินนี่ตำรวจคนไหนมีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องว่ากันไปตามผิด แต่การที่ออกมาให้สัมภาษณ์โต้กันไปมายิ่งเป็นคำถามในสังคมเรื่องความขัดแย้งในองค์กรตำรวจ ส่งผลให้ประชาชนไม่เชื่อมั่น หมดศรัทธา วันนี้ตนสวมเสื้อดำออกรายการเพื่อไว้ทุกข์ให้องค์กรตำรวจ

“ต่อไปจะเป็นมหากาพย์ ตำรวจจะทำงานยาก ตำรวจชั้นผู้น้อย ก็แบบกูจะทำงานให้ใครวะ ชั้นผู้น้อยจะทำงานลำบากมาก” รองแต้ม กล่าว...

ขณะที่ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ กล่าวว่า เรื่องนี้อย่าให้เป็นมวยล้มต้มคนดู เพราะทั้งสองฝ่ายเป็นบิ๊กตำรวจ เป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ถ้าอยู่ดีๆ เรื่องเงียบไปไม่ถึงศาล ทุกอย่างก็จบ ประชาชนก็จะไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แล้วก็มีมวยคู่ใหม่ขึ้นมาอีก