‘พี่เลี้ยงนางงาม’ แฉวีรกรรม ‘พิธีกร’ ฟิวส์ขาดไฟส่องหน้า ตบทำร้ายยกพวกรุม

วันที่ 19 ก.พ. 67 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ “อาตี้” และกลุ่มพี่เลี้ยงนางงามเวทีการประกวดมิสไชน่า 2567 ที่เทศบาลเมืองปัตตานี ที่ถูกพิธีกรชายคนดังในเทศบาลเมืองปัตตานี ส่งคนมาทำร้าย สาเหตุเพราะเอาไฟส่องหน้านางงามบนเวที และแสงไฟแยงตา

อาตี้ เล่าว่า ตนไปเชียร์เวทีการประกวดมิสไชน่า 2567 ที่เทศบาลเมืองปัตตานี ปรากฏว่า ณัฐ พี่เลี้ยงนางงามอีกทีมหนึ่ง เอาไฟสปอตไลต์มาส่องไฟใบหน้าของนางงาม เพราะมองว่าไฟบนเวทีมันไม่สว่าง มืดจนไม่เห็นหน้านางงาม พี่เลี้ยงอีกทีมหนึ่งจึงส่องไฟไปที่หน้านางงามของตัวเอง เพื่อให้กรรมการมองเห็น  พิธีกรบนเวทีก็กล่าวตักเตือนว่าไม่ให้ส่อง เพราะมันไปส่องตาเขา

วิธีการส่องไฟหน้านางงามเป็นวิธีที่พี่เลี้ยงนางงามทุกที่ ทุกค่าย ทำกันแบบนี้ตลอด พอพิธีกรตักเตือน ก็ไม่มีใครส่องอีก แล้วก็มีคนคอมเมนต์ว่านางงามคนหนึ่งเดินล้มบนเวทีเพราะถูกส่องไฟเข้าตา ขอบอกว่าไม่ใช่ เพราะนางงามที่ล้ม เป็นนางงามค่ายของเราเอง น้องเพิ่งหัดเดินส้นสูง น้องนางงามอีกคนที่เบอร์ติดกันเขาก็ถูกส่อง แต่เดินคล่องแล้วเขาก็ไม่ล้ม แล้วเราไปถามว่า กรรมการมองเห็นหน้านางงามไหม กรรมการก็บอกว่ามองไม่ชัด แต่ไม่เป็นไร เขาเปิดกล้องมือถือซูมดูหน้าเอาก็ได้ ซึ่งมันไม่ควรเป็นแบบนั้น

ระหว่างการประกวดก็มีคอมเมนต์ในไลฟ์สด ต่อว่าพิธีกรแล้วว่า ไฟมันมืดมองไม่เห็นหน้านางงาม ควรให้พี่เลี้ยงส่องไฟ จะไปห้ามทำไม ซึ่งณัฐ คนที่ส่องไฟก็ไปบอกพิธีกรว่า ในไลฟ์มีคนด่าพี่เยอะแล้วนะ เรื่องไฟมืด ปรากฏว่าหลังจากนั้นไลฟ์สดก็ตัดไปเลย แล้วคอมเมนต์ในไลฟ์ย้อนหลังก็ถูกลบไปหมด

เมื่อการประกวดเสร็จ มีการถ่ายรูปรวมกับแขกผู้ใหญ่และคณะกรรมการ พร้อมกับพิธีกร แต่เมื่อคณะกรรมการและแขกผู้ใหญ่ลงไปข้างล่างแล้ว ทีมเพื่อนที่ได้รับรางวัล ก็ถ่ายเฉพาะนางงาม 5 คน จากนั้นก็ได้เปิดไฟส่องที่หน้าของนางงาม เพราะเห็นว่าไม่มีใครอยู่บนเวทีแล้ว

พอส่องไฟเสร็จ ทุกคนก็ขึ้นไปแสดงความยินดีกับนางงามที่ได้รับตำแหน่ง และ ณัฐเอาไฟฉายสปอตไลต์ฝากไว้ฝากไว้กับอาตี้ หลังจากนั้นพิธีกรได้ให้คนเดินมาตาม มาบอกกับอาตี้ว่า “ให้ไปคุยกันข้างเวทีหน่อย”

อาตี้บอกว่า “ไม่ไปถ้าหากจะคุยก็ให้มาคุยข้างหน้า”

หลังจากตอบไป อาตี้ก็หันหลังกลับมาคุยกับเพื่อนต่อ พิธีกรก็เดินออกมาบอกว่า “เริ่มเลย” จากนั้น คนของพิธีกรก็ตบเข้าที่ใบหน้าของตนอย่างแรง และเอาเก้าอี้สีแดงมาฟาดตรงบริเวณหัว ซึ่งเหตุการณ์ตอนนั้นมันชุลมุนมาก เมื่อเพื่อนมาช่วย ก็โดนลากไปรุมอีกที่หนึ่ง จากนั้นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ช่วยกัน และพยายามระงับเหตุที่เกิดขึ้น

ตอนที่ทำร้าย พิธีกรคนดังกล่าวก็เข้ามารุมทำร้ายร่างกายเราด้วยเหมือนกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกตกใจมาก ยังงงว่าที่โดนทำร้ายร่างกายมันมาจากสาเหตุอะไร ไม่ได้มาพูดคุยหรือถามเหตุผลอะไรก่อน แต่จู่ ๆ เราก็ถูกตบแบบไม่ทันตั้งตัว หลังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ฝ่ายพิธีกรหรือคนของเขาก็ไม่ได้มาขอโทษอะไรเลย และเมื่อเราไปแจ้งความที่โรงพัก ฝั่งพิธีกรก็มาแจ้งความ บอกว่าถูกทำร้ายร่างกาย ทั้งที่ฝ่ายของเขาเป็นคนเริ่มก่อน

ทีมพี่เลี้ยงนางงามยังไปสืบเสาะเพิ่มเติม จนทราบว่า พิธีกรคนนี้ มีอาชีพเป็นข้าราชการ ทำงานในเทศบาล ก็ควรจะมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ ไม่ใช่จะใช้ความรุนแรงอย่างเดียว  อยากถามว่าที่โมโหเดือดดาลขนาดนั้นเป็นเพราะอะไร แค่เรื่องส่องไฟ หรือมีเรื่องอื่นอีกกันแน่

ขณะที่พิธีกรคนดังกล่าว อายุ 62 ปี ออกมาให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า ตอนที่ตนเป็นพิธีกรอยู่ เห็นพี่เลี้ยงส่องไฟสปอตไลต์ขนาดใหญ่สีดำขึ้นมา จึงห้ามปรามไป เนื่องจากไฟส่องสว่างทำให้นางงามแสบตา ส่วนตนตาพร่าไปหมด จังหวะนั้นมีน้องตัวใหญ่ๆ ผู้ชาย ใส่เสื้อขาวเข้ามาชกตนอยากแรง 2 ครั้ง และโดนดึงผมด้วย ตนก็สวนหมัดกลับไป 2 ครั้งเหมือนกัน ช่วงเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย ตนเองก็จำอะไรไม่ได้มากนัก จำไม่ได้ว่าใช้เก้าอี้ฟาดหรือไม่ ตนก็จำไม่ได้ ทั้งนี้ตนอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษน้องที่ตนทำร้ายด้วย

ขณะที่ พ.ต.ท.เฉลิมพล รุ่งรัตน์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองปัตตานี บอกว่า ได้มีการสอบสวนปากคำทุกฝ่ายอย่างครบถ้วนแล้ว ไม่ต้องกังวลว่าคู่กรณีเป็นคนในพื้นที่แล้วจะไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือกลัวว่าจะเป็นอันตรายอย่างไร ขอให้บอกทางตำรวจได้เลย ยินดีจะอำนวยความปลอดภัยให้ ซึ่งทางผู้ถูกกล่าวหาเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว ทางตำรวจไม่ได้กังวล แม้ผู้ถูกกล่าวจะเป็นข้าราชการเทศบาลอะไรต่างๆ นานา มันมีภาพวงจรปิดเป็นหลักฐานชัดเจน ไม่มีอะไรซับซ้อน