แกะรอยแชร์ลูกโซ่ ใช้โมเดลเดียวกับ Forex-3D หลอกพระสงฆ์เทรดหุ้น

ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ในภาคอีสาน ทุกจังหวัด ตรวจสอบข้อมูล กรณี"วงแชร์พระสงฆ์" ว่าเป็นจริงหรือไม่ หากเป็นเรื่องจริงถือว่าผิดธรรมวินัย ซึ่งกรณีนี้ มาจากเพจออนไลน์ และประธานชมรมสันติประชาธรรม เปิดโปงว่ามีพระสงฆ์ถูกหลอก ลงทุน พฤติกรรมคล้ายถูกหลอกเทรด Forex 3D ขณะที่ข่าว 3 มิติ ตรวจสอบพบว่าบุคคลที่มีชื่อ เป็นแกนนำ ในเครือข่ายนี้ เคยถูกแจ้งความดำเนินคดี และดีเอสไอ เคยเตือนภัยให้ระวังการถูกหลอกเทรดของกลุ่มนี้เช่นกัน



หลังจาก เพจชื่อ อีซ้อขยี้ข่าว เผยแพร่ภาพและข้อความว่า "บ้านแชร์น้องแครอท ล้มแล้ว" โดยเขียนข้อความ อธิบายเพิ่มเติมว่า แชร์ลูกโซ่ของสงฆ์อีสาน และผู้เสียหายส่วนใหญ่คือพระสงฆ์เกือบทั้งหมด โดยเนื้อหาดังกล่าว ยังระบุว่า มีพระสงฆ์ในภาคอีสาน ร่วมลงทุนเทรดกับบริษัทขายฝันนี้ มีความเสียหายกว่า 1000 ล้านบาท "



กรณีดังกล่าวเป็นที่สนใจของสังคมที่สงสัยว่ามีพระสงฆ์ เข้าร่วมเทรดหุ้นและเป็นเหยื่อจริงหรือไม่  นอกจากนี้ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม เปิดเผยว่า พบการตั้งวงแชร์ หรือที่เรียกกันว่า "แชร์แครอท" พฤติการณ์คล้าย Forex 3D มีพระสงฆ์โดนหลอกลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะในภาคอีสาน



นายแทนคุณ บอกว่า ในกลุ่มนี้ มีแกนนำ หรือบิ๊กบอส อยู่4คน อักษร ย่อ ด.เด็ก ดร.ภ.สำเภา นาย ต .เต่า และ นาย ช.ช้าง พฤติกรรมหลอกลวง จะใช้โมเดลคล้ายกับ Forex 3D คือจะอ้างอิงอัตราการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์ ก่อนจะนำมาคิด

คำนวณเป็นกำไร



เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าเหยื่อมีทั้งประชาชนทั่วไป และพระสงฆ์ โดยพระสงฆ์จะเป็นการหาเครือข่ายจากมหาวิทยาลัยสงฆ์ชื่อดัง ในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งหนึ่งในแกนนำกลุ่มนี้เคยบวชเรียน จึงใช้ความสนิทสนทเข้าไปประสานทำโครงการต่างๆ เพื่อการกุศล จากนั้นก็จะบรรยายให้ความรู้ตามโครงการที่ตั้งขึ้น แต่ระหว่างนี้จะถือโอกาสชักชวนผู้เข้าอบรม ให้เข้าร่วมเทรด โดย 1 พอร์ต ให้ลงทุน 1 หมื่น ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 3 แสนกว่าบาท พร้อมกับโน้มน้าวว่าหากได้กำไรจะนำเงินไป พัฒนาพระศาสนา ก็ได้หรือเป็นทุนเมื่อต้องลาสิกขาออกมาก็ได้



ขณะที่นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวนการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ได้สั่งให้สำนักงาน พระพุทธศาสนาจังหวัด ในภาคอีสานทุกจังหวัด ตรวจสอบเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ เนื่องจากยังไม่เคยมีการร้องเรียนมาที่ พศ. จึงไม่มีข้อมูล และหากมีพระเล่นแชร์จริง และมีความเสียหาย สามารถร้องเรียนมาผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก็ได้ ขณะเดียวกันก็ระบุว่าหากพระสงฆ์ ลงทุนเทรด หรือเช่นแชร์ ก็ถือว่าผิดหลักธรรมวินัย ที่คณะปกครองสงฆ์สามารถลงโทษได้



ล่าสุด นายสุพจน์ ดำรงค์เลิศตระกูล เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เขาเป็นตัวแทนของผู้เสียหาย อีกหลายคน ที่ต้องการเปิดโปงว่า กรณีนี้มีทั้งพระสงฆ์และประชาชนทั่วไปที่เสียหาย โดยเฉพาะครู อาจารย์ แพทย์ และพยาบาลในจังหวัดขอนแก่น หนองคาย บุรีรัมย์ พิษณุโลก และจังหวัดอื่นๆ ที่หลงเชื่อกลุ่มคนดังกล่าว ที่มาชักชวนให้ลงทุนผ่านการเทรด



นายสุพจน์เปิดเผยว่า วิธีการของคนกลุ่มนี้จะหลอกให้ลงทุนเปิดพอร์ตให้มากที่สุด แล้วหลอกให้เก็บพอร์ตไว้ให้นาน อ้างว่าเพื่อกำไร และเมื่อผู้ลงทุนต้องการจะถอนเงินออก ก็พบว่ามูลค่าเงินลดลดฉับพลัน และก็ถอนออกไม่ได้ และข้อมูลที่มียังพบว่า มียูเซอร์กว่า 2 พันราย คิดเป็นเงินกว่า 5 พันล้านบาท



นายสุพจน์ ยังระบุว่าการเสียหายกรณีนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2565 เคยร้องเรียนกับกรมสอบสวนคดีพิเศษไว้แล้ว แต่กรณีดัวกล่าวไม่คืบหน้า กระทั่งล่าสุดที่มีเปิดประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง



ข่าว 3 มิติ ตรวจสอบคลิปภาพที่เผยแพร่ในขณะนี้ พบว่าภาพนิ่งที่ปรากฎหลายภาพ ทั้งที่จังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ และอุบลราชธานี ที่เชื่อมโยงกับมหาวิทยาลัยสงฆ์นั้น เป็นการบรรยายเนื้อหาวิชาการตามหัวข้อการจัดโครงการจริง แต่อย่างไรก็ตาม ในการบรรยายนั้น มี ดร. ภ.สำเภา ร่วมบรรยายด้วย แม้ว่าในการบรรยายดังกล่าว ไม่พบคลิปที่มีเนื้อหาชักชวนพระสงฆ์ ให้ร่วมลงทุนเทรดหุ้น แต่แสดงถึงความเชื่อมโยงระหว่าง ดร. ภ.สำเภา กับพระสงฆ์



ขณะเดียวกัน เมื่อตรวจสอบคลิป ที่ ดร.คนนี้ บรรยาย หรือชักชวน เรื่องการเทรดหุ้น ก็ยังไม่พบว่าในคลิปมีพระสงฆ์ ร่วมรับฟังการสอนเทรดแต่อย่างใด แต่เนื้อหามีเรื่องแนวคิดเรื่อง "การเทรดวิถีพุทธ" เข้ามาเกี่ยวข้อง



อย่างไรก็ตาม แม้ยังไม่มีคลิปภาพ ขณะพระสงฆ์เรียนการเทรดหุ้นดังกล่าว แต่จำนวนประชาชนทั่วไปที่เสียหายจากการถูกหลอกเทรด ตามการเปิดเผยของตัวแทนผู้เสียหาย ก็มีจำนวนกว่า 2 พัน รายแล้ว

โดย panisa_p

21 ต.ค. 2567

174 views

EP อื่นๆ