กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 6 เตือนอากาศแปรปรวน ฝนตกหนักถึง 3 ต.ค.

กรมอุตุฯ ประกาศเตือน ฉบับที่ 6 ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน จากมวลอากาศเย็นจากจีน ปะทะร่องมรสุมพาดผ่านหลายภาคของไทย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่โดยเฉพาะภาคเหนือ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 3 ตุลาคมนี้



ในเนื้อหาประกาศเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 6 ระบุว่า ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. - 3 ต.ค. 67 จะยังทำให้ประเทศไทยตอนบนเกิดสภาพอากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และยังมีฝนตกหนักมากในบางพื้นที่ของภาคเหนือ ซึ่งเป็นผลมาจากบริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือด้านตะวันออก จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม



นี่เป็นภาพฝนที่ตกหนักตั้งแต่ช่วงเย็นใน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังคงตกหนักอยู่อย่างต่อเนื่อง



ขณะที่ในตัวเทศบาลนครเชียงรายที่ตอนนี้ระดับน้ำลดลงจนกลับสู่ภาวะปกติ โดยทางเทศบาลได้รับการสนับสนุน รถดูดโคลนจำนวนมากจากอำเภอโดยรอบ เข้าช่วยเก็บกวาดพื้นที่ในตัวเมืองที่ได้รับความเสียหาย เพื่อทำความสะอาดโคลนและขยะที่มากับกระแสน้ำ ซึ่งตอนนี้เข้าไปปิดการระบายน้ำตามท่อ จนไม่สามารถระบายน้ำได้ตามปกติ โดยยังมีชุมชนในเขตเทศบาลนครเชียงราย ที่ได้รับความเสียหายและต้องเร่งทำการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน ได้แก่ ชุมชนป่าแดง ชุมชนเทิดพระเกียรติ ชุมชนเกาะลอย ชุมชนรั้วเหล็ก เหนือใต้ และชุมชุมชนเกาะทอง



ส่วนพื้นที่รับน้ำทุ่งบางระกำโมเดล ล่าสุดกำลังได้รับผลกระทบจากน้ำที่ท่วมในลุ่มน้ำยม ซึ่งหลากลงมาในแม่น้ำยมสายเก่าและสายหลัก โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ใน อำเภอพรหมพิราม อำเภอเมืองพิษณุโลก และอำเภอบางระกำจังหวัดพิษณุโลก ขณะนี้น้ำเต็มทุ่งบางระกำ 100% แล้ว ปริมาตรกักเก็บน้ำในทุ่งวันนี้อยู่ที่ 440 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ ประมาณเกือบครึ่งหนึ่งของความจุเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ที่มีความจุ 939 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ระดับน้ำยังคงเพิ่มต่อเนื่อง เพราะยังมีน้ำจากต้นทางที่จังหวัดแพร่ และสุโขทัยที่เติมเข้ามาอีก



นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก ระบุว่ายังต้องเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ต้นน้ำ แม่น้ำยม ที่จะส่งผลให้ระดับน้ำและปริมาณน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และต้องเฝ้าระวังฝนที่ตกเพิ่มโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 30 ก.ย.-3 ต.ค.67 โดยแม่น้ำยมสายหลัก ที่ไหลผ่าน อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก อยู่ที่ระดับสูง 8.23 เมตร เพิ่มจากเมื่อวาน 8 ซม. แล้วมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น



ด้านหอการค้าไทย ได้ประเมินมูลค่าความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมใน 33 จังหวัด คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 29,845 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 0.17% ของ GDP ซึ่งภาพรวมมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 3 ล้านไร่ แบ่งเป็นพื้นที่การเกษตร 1,166,992 ไร่ และพื้นที่อื่นๆ 1,826,812 ไร่ โดยภาคการเกษตรที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 24,553 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 82.3% ของความเสียหายทั้งหมด รองลงมาเป็นภาคบริการ เสียหาย 5,121 ล้านบาท ส่วนภาคอุตสาหกรรมเสียหายราว 171 ล้านบาท

โดย panisa_p

30 ก.ย. 2567

107 views

EP อื่นๆ