เร่งสืบสวนหาสาเหตุ ติดตามคนร้ายลอบวางระเบิดหน้าบ้านนายอำเภอตากใบ

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุและติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ปล้นรถยนต์ นำมาวางระเบิดหน้าบ้านพักนายอำเภอตากใบ ก่อนปล้นรถจักรยานยนต์หลบหนี ขณะที่นายอำเภอตากใบปลอดภัย ยอมรับว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในห้วงที่กำลังมีการติดตามคดีตากใบก่อนหมดอายุความ จึงต้องเฝ้าระวังพื้นที่สำคัญ และดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน แต่จะเกี่ยวข้องหรือไม่ให้ฝ่ายมั่นคงตรวจสอบ



หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่เปิดถนนป้องนรภัย หน้าบ้านพักนายอำเภอตากใบ ที่ตั้งอยู่ทางเข้าด้านหลังวัดชลธาราสิงเห ม.3 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยนำซากรถยนต์ที่ถูกใช้ก่อเหตุระเบิดออกไปแล้ว เหลือเพียงร่องรอยแรงระเบิด ที่ทำให้ถนนเป็นหลุม บ้านเช่าของเอกชนเสียหายทั้งหลัง และกำแพงของฐานกองร้อยอาสารักษาดินแดน อ.ตากใบ เสียหาย



และทำให้พลทหาร อนุวัฒน์ เหมรา และ พลทหาร กันตยศ บินหลีมา เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนาวิกฦโยธิน ที่ตั้งฐานอยู่ภายในวัดชลธาราสิงหา ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลไฟไหม้ที่ลำตัว ล่าสุดนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา



ก่อนหน้านั้น ข่าว 3 มิติ ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุกับ นายจิรัสย์ ศริวัลลภ นายอำเภอตากใบ ซึ่งปลอดภัย เนื่องจากในช่วงเกิดเหตุ 21.51 น. นายอำเภอ อยู่ระหว่างพาครอบครัวไปทานอาหารในเมืองนราธิวาส ภายในบ้านพักมีกระจกแตก ส่วนบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 4 หลัง หนักสุดเป็นบ้านเช่าเอกชน เสียหายทั้งหลัง และบางส่วนที่กระจกแตกจากแรงระเบิด ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นถนนขนานแม่น้ำ ไม่มีร้านค้าหนาแน่น ทำให้ไม่ได้รับความเสียหาย จากลักษณะการก่อเหตุ เชื่อว่าคนร้ายเลือกสถานที่ไว้แล้ว



นายอำเภอตากใบ ยอมรับว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในห้วงกำลังจะครบรอบ 20 ปี เหตุการณ์ตากใบ ในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ซึ่งมีการแจ้งเตือนของฝ่ายความมั่นคงอยู่แล้วให้ทุกเมืองในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระมัดระวังการก่อเหตุ จึงเชื่อว่าเป้าหมายต้องการหวังผลต่อสถานการณ์ในพื้นที่ ส่วนจะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ต้องให้ฝ่ายความมั่นคงตรวจสอบ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีการเฝ้าระวังมากเป็นพิเศษ



นายอำเภอตากใบได้เปิดศูนย์รับเรื่องเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุระเบิดทีหอประชุมอำเภอตากใบ และเยี่ยมเยียนประชาชนโดยรอบ มีร้านค้าที่ได้ยินเสียงระเบิด แต่ยังไม่พบอาคารเสียหาย ยอมรับว่าเป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นในรอบ 20 ปีในย่านนี้หลังเหตุการสลายการชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ ที่อยู่ห่างเพียง 500 เมตร



ตำรวจชุดอีโอดี และพิสูจน์หลักฐาน นำโดย พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุคนร้ายบุกปล้นรถยนต์ ก่อนนำไปก่อเหตุวางระเบิด รวมถึงนำเจ้าของบ้านชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งเกิดขึ้นเวลา 21.30 น.ของวันที่ 29 กันยายน ขณะที่เจ้าของบ้าน ที่มีผู้หญิง 3 คน เป็นแม่อายุกว่า 50 ปี ลูกสาว 2 คน คนหนึ่งกำลังตั้งครรภ์ 5 เดือน เป็นเจ้าของรถยนต์ และอีกคนหนึ่งอายุ 14 ปี ให้การว่า คนร้าย 5 คน ที่แต่งชุดดำเลียนแบบทหาร สวมหมวกไหมพรมคลุมใบหน้า พร้อมปืนอาก้า บุกเข้ามาใช้ปืนขู่เพื่อเอากุญแจรถยนต์ ก่อนมัดมือทั้งสามคนไว้ในบ้าน และนำรถยนต์ ออกไปจากบ้าน



จากนั้นคนร้ายที่เหลือ 2 คน ได้จับตัว ผู้ชาย 7 คน ซึ่งเป็นเด็ก 3 คน ไปขังไว้ในอีกห้องหนึ่ง เนื่องจากเดินผ่านหน้าบ้าน โดย 2 คนแรก ยืนยันว่า ไม่ได้เห็นขณะที่คนร้ายมาปล้นรถยนต์ แต่ปกติจะเดินไปหาเพื่อนที่บ้านอยู่ด้านหลัง คนร้ายก็นำปืนมาขู่แล้วพาตัวไปขังไว้ในห้อง จากนั้น เพื่อนอีก 4 คน ที่เดินมาตามหา ก็ถูกจับมามัดมือขังไว้รวมกันเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง มีเพื่อนมาตามหา และได้รับความช่วยเหลืออกมา ส่วนคนร้ายหลบหนีไปก่อนหน้านั้น



ข่าว 3 มิติ พูดคุยกับผู้เสียหาย ทั้งเจ้าของบ้าน และกลุ่มเยาวชนชาย ที่ถูกจับไปมัดมือขังไว้ ต่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ในส่วนผู้หญิง 3 คน ก็อยู่ในอาคารหวาดกลัว ไม่ขอให้สัมภาษณ์ แต่เล่าให้ฟังเพียงว่า รถยนต์เพิ่งซื้อมา 7 เดือน และยังผ่อนอยู่ จึงเป็นห่วงด้วยว่าจะได้รับเงินประกันหรือไม่ และโทรศัพท์หายไป 4 เครื่อง แต่ส่วนตัวทุกคน ก็ยอมรับว่ามีชีวิตรอดกลับมาก็ดีใจแล้ว ส่วนเจ้าของรถยนต์มีสามีเป็นทหารพราน สังกัดกรมทหารพรานที่ 48 ได้เข้าไปให้การตำรวจแล้วยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกับใคร ซึ่งทางตำรวจ สภ.ตากใบ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนหามูลเหตุที่เกี่ยวข้อง



เมื่อปล้นรถยนต์มาแล้ว คนร้ายใช้เวลาเพียง 21 นาที ในการปฏิบัติการณ์ ซึ่งคาดการณ์ว่านำวัตถุระเบิดที่ดัดแปลงจากแก๊สหุงต้มน้ำหนัก 14 กิโลกรัม ใส่รถยนต์ตั้งแต่บ้านที่ถูกปล้น ในหมู่ที่ 6 ต.เจ๊ะเห แล้วขับเข้าไปจุดเกิดเหตุ ได้จอดรถไว้ข้างฐานกองร้อยอส. ก่อนปล่อยรถให้ไหลไปไม่ถึง 3 นาที ระเบิดก็ทำงาน



ซึ่งคนร้ายได้หลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุ แล้วพบว่าหลังจากนั้น ได้ไปปล้นรถจักรยานยนต์ 4 คัน ในพื้นที่ บ้านตะเหลี่ยง ม.4 ตำบลเกาะสะท้อน อำเภอตากใบ ซึ่งหากจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร ก่อนจะนำมาจอดทิ้งไว้ริมแม่น้ำโกลก ตรงข้ามบ้านปุเลาฮูลา ตำบลตุมปัต รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย และได้ทิ้งโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่องที่ยึดมาจากเจ้าของรถทิ้งไว้ในตะกร้า ตำรวจได้ตรวจพิสูจน์หลักฐาน เพื่อติดตามตัวคนร้าย และความเชื่อมโยงเหตุการณ์ทั้ง 3 จุด พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเชื่อมโยงเหตุการณ์ทั้งหมด เพื่อสรุปมูลเหตุอีกครั้ง และในวันพรุ่งนี้ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 จะมาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง

โดย panisa_p

30 ก.ย. 2567

63 views

EP อื่นๆ