'เผ่าภูมิ' เผยแจกเงินหมื่นวันที่ 2 โอนสำเร็จแล้วอีก 4.51 ล้านคน ด้านตลาดหลายพื้นที่คึกคัก ผู้ได้สิทธิ์แห่นำเงินใช้จ่าย

สำหรับความคืบหน้าการโอนเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการเฟสแรกวันที่ 2 วันนี้ ทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่ามีการโอนไปอีก 4.51 ล้านคน



นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึง การโอนเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ผ่านผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ ตามนโยบายของรัฐบาล ล่าสุดวันนี้ ว่าการโอนเงินลงไปให้กลุ่มเปราะบาง ในวันที่สอง การโอนเงินทั้งหมดกับผู้ที่มีเลขประจำตัวบัตรประชาชนลงท้ายเลข 1, 2, 3 จำนวน 4.51 ล้านคน เสร็จสิ้นตั้งแต่ช่วงเวลาตี 4 แล้ว



ส่วนวันที่ 27 กันยายน จะโอนเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ ที่มีเลขประจำตัวบัตรประชาชนลงท้าย เลข 4,5,6,7 จำนวน 4.51 ล้านคน และวันสุดท้าย คือ วันที่ 30 กันยายน 2567 โอนเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ ที่มีเลขประจำตัวบัตรประชาชนลงท้าย เลข 8, 9 จำนวน 2.25 ล้านคน



ส่วนที่จังหวัดอุทัยธานี ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ประชาชนที่ได้รับเงินดังกล่าว เดินทางไปกดเงินที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรหรือธกส. จนแน่นหน้าตู้ธนาคาร บางคนบอกว่า ดีใจมากที่ได้รับเงินก้อนนี้จากรัฐบาล และนี่เป็นครั้งแรกที่จะได้จับเงินหมื่นกับเขา โดยบอกว่า จากนี้จะนำไปซื้อข้าวสารไว้กิน และใช้หนี้



ส่วนที่จังหวัดพิษณุโลก บรรยากาศการเลือกซื้อชิ้นส่วนหมู เป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากที่ ผู้มีสิทธิรับเงิน10,000บาท ได้เบิกเงินมา หลายคนพากันไปซื้่อของก่อนกลับบ้าน ทางร้านบอกว่า ส่วนใหญ่ลูกค้าวันนี้ คือผู้ที่ได้รับเงิน 10,000 บาทแล้ว



นางบุญช่วย ขาวเพชร บอกว่า ตนเองก็มีสิทธิได้รับเงิน 10,000 บาทด้วย ได้วางแผนเอาไว้ว่าเงินจำนวนนี้จะเก็บเอาไว้สำหรับเป็นค่าเดินทางไปหาหมอ และไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันส่วนหนึ่ง



ขณะที่ร้านพันธ์ทวีมอลล์ ในอ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรแบบครบวงจร และสินค้าเบ็ดเตร็ด ก็บอกว่า มีลูกค้าหมุนเวียนเดินทางมาจับจ่ายซื้อของกันอย่างต่อเนื่อง



โดยนายเกษ สิงห์คำป้อง อายุ 70 ปี เกษตรกรชาวอำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม บอกว่า ตนเองได้รับเงิน 10,000 บาทของโครงการจากรัฐบาลในวันนี้ โดยมีเงินเข้าช่วงประมาณ 19.00 น.ที่ผ่านมา วางแผนแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปชำระหนี้ ธกส. และอีกส่วนนำมาซื้อเครื่องตัดหญ้าเพื่อต่อยอดนำไปใช้ตัดหญ้าในนาข้าวของตนและรับจ้างในนาข้าวพื้นที่อื่นด้วย



ทางเจ้าของร้านค้าหลายแห่ง ก็บอกในทำนองเดียวกันว่า หลังจากมีผู้รับเงิน10,000 บาทแล้ว ก็ทยอยไปซื้อสินค้าจากทางร้านมากขึ้น จึงคิดว่า โครงการดังกล่าวน่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าได้

โดย panwilai_c

26 ก.ย. 2567

54 views

EP อื่นๆ