รบ.เผยตัวเลขผู้ได้รับเงินหมื่นวันแรก 3.16 ล้านคน นายกฯ เชื่อ สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ

วันนี้เป็นวันแรกที่ กลุ่มเปราะบางกลุ่มแรก ได้รับเงิน 1 หมื่นบาท ที่เป็น 1 ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกเหนือจากโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต โดยรัฐบาลได้เปิดเผยตัวเลขของผู้ได้รับเงินโอนในวันแรก ว่าสำเร็จไปแล้ว กว่า 3.16 ล้านคน จากเป้าหมาย 3.17 ล้านคน เนื่องจากมีบางส่วนที่พบปัญหาบัตรหมดอายุ หรือมีสถานะที่ต้องแก้ไข



นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดตัว โครงการโอนเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยย้ำถึงความจำเป็นของโครงการว่า ประเทศไทยกำลังประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจเรื้อรังมาหลายปี ซึ่งประกอบด้วยปัจจัยทั้งภายในและนอกประเทศ ที่เศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ระหว่างฟื้นฟู



การโอนเงินครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า จะสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกใหญ่ครั้งแรก เพื่อต่อลมหายใจให้พี่น้องประชาชนรายเล็กที่กำลังเดือดร้อน ซึ่งเป็นการเติมเงินหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจ กว่า 145,000 ล้านบาท ทำให้ประชาชน มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อย่างที่เคยกล่าวไว้



ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการดิจิทัลวอลเลต นั้น นายกรัฐมนตรีบอกว่า รัฐบาลอยู่ระหว่างวางระบบ ให้ประชาชนมี Digital ID เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างรัฐบาลและประชาชน ทำให้การทำธุรกรรมต่าง ๆ กับหน่วยงานรัฐสะดวกขึ้น โปร่งใสตรวจสอบได้ ที่สำคัญระบบนี้จะใช้เป็นระบบเยียวยา ที่รัฐจะสามารถโอนตรงสู่ประชาชนได้



หลังจากเปิดโครงการอย่างเป็นทางการ นายกรัฐมนตรีก็ได้วิดีโอคอล พูดคุยกับชาวบ้าน ในจังหวัดต่างๆ ที่ได้รับเงินหมื่น เพื่อสอบถามความรู้สึกและการนำเงินไปใช้ของชาวบ้าน



ทีมข่าวได้สำรวจบรรยากาศผู้ได้รับเงินโครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ชุมชนคลองเตย ก็พบกับ นางบุญมี ขามถ้วย อายุ 90 ปี ซึ่งเธอก็ได้ให้ลูกชาย ออกไปกดเงินสดจากบัญชีมาให้ เพื่อนำไปใช้จ่ายหนี้ กับร้านค้าที่ติดเงินค่าข้าวสารและสินค้าไว้



ขณะที่นายสวิง น่วมมีคุณ อายุ 65 ปี ก็ได้ไปกดเงินด้วยตัวเองตั้งแต่ช่วงตี 5 โดยจะนำไปใช้รักษาตัว และ ใช้จ่ายประจำวัน ซึ่ง นายสวิง ยอมรับว่า การที่รัฐให้เงินเป็นเงินสดก็สะดวกและตอบโจทย์การใช้จ่ายมากกว่า เพราะก่อนหน้านี้ใช้ได้แค่การนำบัตรไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเท่านั้น



ขณะที่ กลุ่มเปราะบางบางส่วนก็ยังไม่ได้รับเงินจำนวนนี้ อย่างเช่น นายบุญเชิด ผาสุก วัย 50 ปี เนื่องจากบัตรประจำตัวผู้พิการหมดอายุทำให้ต้องไปติดต่อทำบัตรประจำตัวผู้พิการใหม่ก่อน



ส่วนบรรยากาศที่ต่างจังหวัดก็คึกคักไม่แพ้กัน ทั้งที่ จังหวัดกำแพงเพชร นครราชสีมา ขอนแก่น และอีกหลายจังหวัด ประชาชนกลุ่มแรกที่ได้รับเงินก็มารอกดเงินสด 10,000 บาท กันที่หน้าตู้ ATM ตั้งแต่เช้า ซึ่งชาวบ้านที่ได้รับเงินวันนี้ต่างพากันดีใจ โดยจะนำจำนวนนี้ไปซื้อข้าวสารอาหารแห้ง จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ รวมถึงใช้หนี้ที่หยิบยืมมา ซึ่งส่วนใหญ่บอกว่าจะกดเงินทั้งหมดออกจากบัญชีเพื่อไปใช้จ่ายทันที



สำหรับเงินหมื่นเฟสแรกของกลุ่มเปราะบาง 14.55 ล้านคน จะแบ่งการโอนเงิน ออกเป็น 4 วัน

คือ วันแรกในวันนี้ สำหรับ คนพิการ และ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 0 วันที่ 26 กันยายน สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 1-3



วันที่ 27 กันยายน สำหรับผู้มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 4-7

และ วันที่ 30 กันยายน สำหรับผู้มีเลขหลักสุดท้ายเป็นเลข 8-9

โดย panwilai_c

25 ก.ย. 2567

23 views

EP อื่นๆ