จนท.เกาหลีใต้เร่งสอบเหตุน้ำท่วมอุโมงค์ใต้ดินเมืองชองจู ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน

ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมและดินถล่มที่เกาหลีใต้ เพิ่มเป็น 40 คนแล้ว ขณะที่ทางการเกาหลีใต้เร่งสอบสวนหาสาเหตุของน้ำท่วมอุโมงค์ทางลอดใต้ดินในเมืองชองจู ล่าสุด พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 13 คน


อุโมงค์ทางลอดใต้ดินแห่งนี้มีความยาว 685 เมตร ตั้งอยู่ในเมืองชองจู จังหวัดชุงชองเหนือ ซึ่งถูกน้ำท่วมตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากตลิ่งของแม่น้ำมิโฮที่อยู่ใกล้เคียงพังทลาย ทำให้มวลน้ำไหลทะลักเข้าไปในอุโมงค์อย่างรวดเร็ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ถึงมาตรการรับมือและป้องกันภัยพิบัติของรัฐบาล และล่าสุดสำนักงานประสานงานนโยบาย ของรัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุ โดยก่อนหน้านี้ สำนักงานตำรวจจังหวัดชุงชองเหนือได้จัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อหาสาเหตุว่า ทำไมจึงไม่มีการสั่งปิดอุโมงค์ ทั้ง ๆ ที่กำลังจะเกิดน้ำท่วม พร้อมทั้งจะตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับการดูแลแม่น้ำว่ามีมาตรการเพียงพอในการป้องกันตลิ่งพังทลายหรือไม่ โดยทางสำนักงานฯ ยืนยันว่ามีสายฉุกเฉินโทรเข้ามาถึง 2 ครั้ง เพื่อขอให้มีการสั่งปิดการจราจรในช่วงเวลา 2 ชั่วโมงก่อนเกิดน้ำท่วมร้ายแรง


ขณะเดียวกัน ก็มีการชี้แจงออกมาว่า หลังจากที่ตลิ่งแม่น้ำพัง มวลน้ำไหลบ่าเข้าไปในอุโมงค์อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงแค่ 3 นาที ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถประกาศเตือนประชาชนได้ทันเวลา รวมถึงยังพบว่า ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ระบบระบายน้ำของอุโมงค์ไม่สามารถระบายน้ำได้ทันเวลา เพราะระบบด้านนอกประสบปัญหาไฟฟ้าดับเนื่องจากน้ำท่วม


เมื่อคืนนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยของเกาหลีใต้สามารถกู้ร่างของผู้เสียชีวิตออกมาได้ 4 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตที่อุโมงค์แห่งนี้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 13 คน และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะยังมีผู้สูญหาย และมีรถจมอยู่ใต้น้ำในอุโมงค์ถึง 16 คัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยอมรับว่าการค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบากเพราะน้ำท่วมผสมกับโคลนและมีความสูงกว่า1 เมตร


ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและดินโคลนถล่มในหลายเมืองทั่วเกาหลีใต้ ขณะนี้ เพิ่มเป็น 40 คน สูญหาย 9 คน และบาดเจ็บอีก 34 คน ทรัพย์สินของทางการเสียหาย 628 แห่ง และเอกชนอีก 317 แห่ง ถนนพังเสียหาย 146 สาย และบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม 139 หลัง


ประธานาธิบดียุนซอกยอล ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ระดมทรัพยากรทั้งหมด ที่มีอยู่จัดการความเสียหายจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น พร้อมกับกล่าวโทษเจ้าหน้าที่ว่าล้มเหลวในการทำตามข้อปฏิบัติในการรับมือกับภัยพิบัติ จนเป็นเหตุให้เกิดการสูญเสียของชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก


ขณะเดียวกัน ในวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาของเกาหลีใต้ออกมาประกาศเตือนว่า พื้นที่ทางตอนกลางและใต้ของประเทศจะเผชิญฝนตกหนักอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะมีปริมาณฝนตกลงมามากกว่า 70 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง


ส่วนการเฝ้าระวัง ผลกระทบจากพายุโซนร้อน ตาลิม ที่อาจมีผลต่อหลายประเทศในเอเชีย รวมถึงประเทศไทย ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาซเมื่อ 16 นาฬิกาวันนี้ ว่าพายุโซนร้อนกำลังแรง "ตาลิม" (TALIM) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 100 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองจั้นเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน หรือที่ละติจูด 20.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัว ทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในคืนนี้ และจะเคลื่อนผ่านชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ และประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 18-19 ก.ค. 66


โดยจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน พายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ ภาวะเช่นนี้ จะทำให้มีฝนตกหนักและหนักมากในทั่วทุกภาค จนถึงวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ จึงแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังน่ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในอาจเกิดขึ้นได้

โดย parichat_p

17 ก.ค. 2566

86 views

EP อื่นๆ